เมื่อวันที่ 9 ก.พ. สำนักข่าวตาสส์ของรัสเซียรายงานว่า ศาลเมืองยุจโน-ซาฮาลินสค์ แคว้นซาฮาลินสค์ ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ตัดสินจำคุกนายอเล็กซานเดอร์ โฮโรชาวิน อดีตผู้ว่าการแคว้นซาฮาลินสค์ เป็นเวลา 13 ปี ในเรือนจำคุมเข้มพิเศษ พร้อมปรับเงิน 500 ล้านรูเบิล หรือกว่า 273 ล้านบาท ในข้อหารับสินบนและฟอกเงิน

นายอเล็กซานเดอร์ โฮโรชาวิน/ infox.ru

ศาลอ่านคำตัดสินตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. ใช้เวลาทั้งหมดพร้อมช่วงพักรวมแล้วกว่า 14 ช.ม. นอกจากนายโฮโรชาวินแล้ว ยังมีนายอันเดรย์ อีครามอฟ อดีตที่ปรึกษาของนายโฮโรชาวิน, นายเซอร์เกย์ คาเรปคิน อดีตรองผู้ว่าการแคว้นซาฮาลินสค์ และนายนีโคไล บอรีซอฟ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรประจำแคว้นซาฮาลินสค์ ร่วมฟังคำตัดสินด้วย

นายอเล็กซานเดอร์ โฮโรชาวิน © Иван Балов/ТАСС

ศาลตัดสินนายอีครามอฟจำคุก 9 ปีครึ่ง ในเรือนจำคุมเข้มพิเศษ พร้อมปรับเงิน 176 ล้านรูเบิล หรือกว่า 96 ล้านบาท ส่วนนายคาเรปคินจำคุก 8 ปี พร้อมปรับเงิน 4 ล้านรูเบิล หรือราว 2.2 ล้านบาท ขณะที่นายบอรีซอฟ ปรับเงิน 4.5 ล้านรูเบิล หรือราว 2.45 ล้านบาท แต่เนื่องจากนายบอรีซอฟรับโทษกักบริเวณภายในบ้าน ให้ปรับเพียง 2.5 ล้านรูเบิล หรือราว 1.35 ล้านบาท แต่ขณะนี้มีการยื่นคำร้องให้นายบอรีซอฟรับโทษจำคุก 7 ปี

นายอเล็กซานเดอร์ โฮโรชาวิน พร้อมพวก/ vesti.ru

นอกจากนี้ นายโฮโรชาวินและนายคาเรปคินยังถูกเรียกคืนเครื่องอิสริยาภรณ์แห่งรัฐทั้งหมด พร้อมตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี และ 3 ปี ตามลำดับ

“กลุ่มอาชญากร”

เยเลนา โปลีคีนา ผู้พิพากษาหญิง อ่านคำตัดสินว่า “กลุ่มอาชญากรดำรงอยู่อย่างมั่นคงเป็นเวลานาน โดยมีเป้าหมายในการรับสินบนจากนักธุรกิจจำนวนมหาศาล กลุ่มอาชญากรกลุ่มนี้มีเสถียรภาพ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ละคนในกลุ่ม รวมทั้งนายโฮโรชาวินด้วย มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน”

ผู้พิพากษาหญิงระบุว่า การรับสินบนจากนักธุรกิจดำเนินการไปตามแผนที่กำหนดไว้ ผู้มีส่วนร่วมแต่ละคนในกลุ่มดำเนินบทบาทที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกัน การสืบสวนพบว่า นายโฮโรชาวินไม่ได้รับสินบนโดยตรง แต่รับผ่านผู้มีส่วนร่วมคนอื่นในกลุ่ม

นอกจากนี้ การสืบสวนระบุว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเปิดเผยและความปลอดภัย กลุ่มอาชญากรกลุ่มนี้จึงสมรู้ร่วมคิดและวิธีการทางเทคนิคเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลการสื่อสารรั่วไหลเพื่อขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการเปิดเผยการกระทำของกลุ่ม

“ศาลไม่มีข้อสงสัยเรื่องที่ได้รับเงินในบัญชีแล้วกระจายไปยังมีส่วนเกี่ยวข้องแต่ละคน การรับสินบนในแต่ละครั้งเป็นเงินมากกว่า 1 ล้านรูเบิล (ราว 547,000 บาท) ซึ่งเป็นจำนวนมหาศาลอย่างยิ่ง” ผู้พิพากษาหญิงระบุ

วัตถุทางคดีกว่า 160 ชิ้น

นายเดนิส ชตุนเดอร์ โฆษกอัยการ ระบุว่า ในการพิจารณาคดีมีการตรวจสอบวัตถุทางคดีกว่า 160 ชิ้น จากผลการทดสอบต่างๆ และหลักฐานของพยานกว่า 40 คน จนสามารถระบุได้ว่า นายโฮโรชาวินและพรรคพวกมีความผิดฐานรีดไถและรับสินบน

นายชตุนเลอร์ระบุว่า นายโฮโรชาวินรีดไถสินบนจากนักธุรกิจตั้งแต่ปี 2554 ถึง 2558 นักธุรกิจหลายสิบคนถูกสอบปากคำระหว่างการสืบสวนซึ่งกล่าวอย่างละเอียดถึงวิธีการและสถานที่ที่พรรคพวกโอนถ่ายเงินไปให้นายโฮโรชาวิน

“นักธุรกิจทั้งหมดถูกบังคับให้จ่ายสินบนแก่นายโฮโรชาวิน เนื่องจากไม่สามารถปฏิเสธนายโฮโรชาวินและพรรคพวกของเขาได้ โดยมั่นใจว่า นายโฮโรชาวินวางเงื่อนไขดังกล่าวต่อบริษัทของพวกตนซึ่งมีพนักงานหลายร้อยและหลายพันคนทำงานให้ล้มละลาย” โฆษกอัยการระบุ

นายโฮโรชาวินครอบครองทรัพย์สินหรูหราไว้จำนวนมาก ซึ่งพนักงานสืบสวนสามารถตรวจพบจากการบุกค้นอพาร์ตเมนต์หรู 3 แห่ง ในกรุงมอสโก และบ้านพักตากอากาศชานกรุงมอสโก หลังจากการจับกุมนายโฮโรชาวินเมื่อปี 2558 ประกอบด้วยสกุลเงินสดต่างประเทศรวมมูลค่า 1,000 ล้านรูเบิล หรือราว 547 ล้านบาท เครื่องประดับ 800 ชิ้น และปากกา 1 ด้าม มูลค่า 36 ล้านรูเบิล หรือราว 19.6 ล้านบาท

รวมทั้งคอลเล็คชั่นนาฬิกาข้อมือ 195 เรือน รวมมูลค่า 602 ล้านรูเบิล หรือราว 329 ล้านบาท โดยเรือนที่แพงที่สุดมีมูลค่า 700,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 22 ล้านบาท นอกจากนี้ ก่อนที่นายโฮโรชาวินจะถูกจับกุมได้สารภาพว่า ยังมีนาฬิกาหรูอีก 1 เรือน มูลค่า 36 ล้านรูเบิล หรือราว 19.6 ล้านบาท

นายโฮโรชาวินยังมีอพาร์ตเมนต์ 4 แห่ง รวมมูลค่ากว่า 240 ล้านรูเบิล หรือราว 142 ล้านบาท โรงรถ 6 แห่ง มูลค่ากว่า 2.9 ล้านรูเบิล หรือราว 1.58 ล้านบาท และรถยนต์อีก 6 คัน ในจำนวนนี้มีเมอร์เซเดส-เบนซ์ มูลค่า 11 ล้านรูเบิล หรือราว 6 ล้านบาท รถเบนต์ลีย์ รุ่น คอนติเนนตัล จีที (Bentley Continental GT) และรุ่น มุลซาน (Bentley Mulsanne) รวม 23.3 ล้านรูเบิล หรือราว 12.7 ล้านบาท และรถเล็กซัสอีก 2 คัน

สำหรับทรัพย์สินทั้งหมดของนายโฮโรชาวินถูกโอนให้เป็นของรัฐบาลรัสเซีย อย่างไรก็ตาม สเวียตลานา เปเตรนโค โฆษกหญิงคณะกรรมการสอบสวนแห่งชาติรัสเซีย ระบุว่า ยังมีทรัพย์สินบางส่วนของนายโฮโรชาวินที่ไม่ได้รับการสำแดงอีก

ทั้งนี้ นายโฮโรชาวินถูกจับกุมที่ศาลาว่าการแคว้นซาฮาลินสค์เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2558 และถูกนำตัวขึ้นเครื่องบินพร้อมพวกไปดำเนินคดีที่กรุงมอสโก พนักงานสืบสวนบุกค้นอพาร์ตเมนต์หรู 3 แห่ง ในกรุงมอสโก และบ้านพักตากอากาศชานกรุงมอสโก ซึ่งพบทรัพย์สินหรูหราจำนวนมาก ต่อมาวันที่ 4 มี.ค. ศาลสั่งจับกุมนายโฮโรชาวิน และวันที่ 25 มี.ค. นายวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย มีคำสั่งถอดถอนนายโฮโรชาวินพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการแคว้นซาฮาลินสค์เนื่องจากสูญเสียความน่าเชื่อถือ

อย่างไรก็ตาม เพิ่งนำตัวนายโฮโรชาวินพร้อมพวกเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอีก 2 ปีต่อมา อัยการยื่นฟ้องต่อศาลให้จำคุกนายโฮโรชาวิน เป็นเวลา 13 ปี พร้อมปรับเงิน 500 ล้านรูเบิล หรือกว่า 273 ล้านบาท นายโฮโรชาวินถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่ารับสินบน 8 กระทง และฟอกเงิน 1 กระทง พร้อมด้วยพวกอีก 3 คน จากการสืบสวนพบว่า ผู้ก่อเหตุทั้งหมดรับสินบนจากนักธุรกิจเป็นเงิน 522 ล้านรูเบิล หรือราว 285 ล้านบาท (แปลจากภาษารัสเซีย: ข่าวสด)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน