เมื่อวันที่ 9 ก.พ. เดลี่เมล์ รายงานว่า บรรดาภัตตาคารเนื้อสุนัขเกือบทั้งหมดในอำเภอพย็องชัง งหวัดคังว็อน ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเริ่มจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 แล้ว ปฏิเสธคำขอจากรัฐบาลเกาหลีใต้ในการหยุดเสิร์ฟเมนูเนื้อสุนัขให้กับนักกีฬาและชาวต่างชาติ
เจ้าหน้าที่รัฐขอความร่วมจากภัตตาคารเนื้อสุนัขทั้งหมด 12 แห่ง เพื่อให้หยุดเสิร์ฟเมนูเนื้อสุนัขในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว เพื่อแลกเปลี่ยนกับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล แต่กลับมีภัตตาคารเพียง 2 แห่ง ที่ปฏิบัติตามคำขอดังกล่าว
นายลี ยอง-แบ เจ้าหน้าที่อำเภอพย็องชัง กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า เจ้าหน้าที่ต้องเจอกับเสียงเรียกร้องจากเจ้าของร้านอาหารว่ากำลังคุกคามวิถีชีวิตของพวกตน
“บางรายเอาเนื้อหมูและเนื้อสัตว์อื่นๆ มาวางแทนเนื้อสุนัขเพียงเพื่อให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นค่อยนำเนื้อหมาขึ้นมาวางขายอีกครั้ง”
นายลีกล่าวอีกว่า บรรดาป้ายโฆษณาเมนูเนื้อสุนัข เช่น โบชินตัง (ซุปบำรุงสุขภาพ) ยองยังตัง (ซุปโภชนาการ) หรือ ซาชอลตัง (ซุปตลอดปี) ถูกแทนที่ด้วยป้ายเนื้อสัตว์ชนิดอื่น เช่น เนื้อแกะ เพื่อหลีกเลี่ยงการนำเสนอภาพไม่น่าประทับใจอย่างร้ายแรงให้กับชาวต่างชาติในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว
ด้านกลุ่มนักเคลื่อนไหวได้รณรงค์ให้หยุดบริโภคเนื้อสุนัข โดยร่วมลงชื่อทางออนไลน์เพื่อคว่ำบาตรการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวพย็องชัง 2018 พร้อมเดินประท้วงในกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้
ทั้งนี้ คาดว่ามีชาวเกาหลีใต้บริโภคเนื้อสุนัขปีละ 1 ล้านตัว เป็นอาหารรสเลิศในช่วงฤดูร้อน โดยนำมาต้มเพื่อให้นุ่มละมุ่นเพราะเชื่อว่าจะเพิ่มพลังงานและเสริมสุขภาพ ขณะที่รัฐบาลจัดให้เนื้อสุนัขเป็นอาหารที่น่ารังเกียจเช่นเดียวกับงู แต่การประกาศดังกล่าวไม่มีผลบังคับในทางกฎหมาย
อย่างไรก็ดี วัฒนธรรมการรับประทานเนื้อสุนัขเริ่มลดลง เนื่องจากคนในชาติมีความคิดว่าสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงมากขึ้นแทนที่จะกลายเป็นอาหาร อีกทั้งการรับประทานเนื้อสุนัขยังเป็นเรื่องต้องห้ามของเยาวชนเกาหลีใต้รุ่นใหม่ด้วย
