วันที่ 11 ก.พ. ซีเอ็นเอ็นและมิร์เรอร์รายงานว่า เครื่องบินอันโตนอฟ-148 ของสายการบินซาราตอฟแอร์ไลนส์ ประเทศรัสเซีย ซึ่งบรรทุกผู้โดยสาร 65 คน และลูกเรือ 6 คน รวม 71 คน ประสบเหตุตกหลังบินขึ้นไม่นานจากสนามบินโดโมเดโดโวในกรุงมอสโก
แหล่งข่าวสนามบินโดโมเดโดโวกล่าวว่า เครื่องบินหายไปจากเรดาร์ราว 2 นาทีหลังจากทะยานขึ้นฟ้า และว่ารัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมรัสเซียกำลังรุดไปยังจุดเกิดเหตุ ส่วนสาเหตุที่เครื่องตกนั้นยังไม่ชี้ชัด อาจเป็นได้ทั้งสภาพอากาศรุนแรง ความผิดพลาดของเครื่องยนต์ หรือความผิดพลาดของลูกเรือ
เครื่องบินที่ประสบเหตุมีอายุการใช้งานราว 7 ปี เป็นเครื่องบินที่ผลิตเองในรัสเซีย และสายการบินซาราตอฟแอร์ไลนส์ซื้อจากสายการบินอื่นในประเทศเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา
แฟ้มภาพ TASS
ด้านเอเอฟพีระบุว่า เครื่องบินลำดังกล่าวกำลังเดินทางไปยังเมืองออร์สก์ในเขตสหพันธ์ยูรัล แต่ประสบเหตุตกในเขตราเมนสกี ราว 80 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโก ขณะที่สื่อท้องถิ่นกล่าวว่าประชาชนในหมู่บ้านอาร์กูโนโวเห็นเครื่องบินไฟไหม้และค่อยๆ ดิ่งตกลงมาจากท้องฟ้า
(Life.ru via AP)
แหล่งข่าวหน่วยงานฉุกเฉินของรัสเซียเปิดเผยกับสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ว่า มีความเป็นไปได้ยากมากที่ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 71 คนจะรอดชีวิต ซ้ำร้ายยังมีรายงานว่าพบชิ้นส่วนเครื่องบินตกกระจายไปทั่วพื้นที่ในเขตราเมนสกี
ทั้งนี้ รัสเซียเผชิญกับเหตุความสูญเสียร้ายแรงจากกรณีเครื่องบินตกอย่างน้อย 2 ครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2559 เครื่องบินตูโปเลฟ ตู-154 ของกองทัพรัสเซีย ตกในทะเลดำ และมีผู้เสียชีวิต 92 ราย ต่อเนื่องจากเหตุเครื่องบินแอร์บัส เอ 321 ของสายการบินเมโทรเจ็ท เที่ยวบิน 9268 ตกในเขตไซไน ของอียิปต์ คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือ 224 ราย เมื่อเดือนต.ค.2558 ซึ่งกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างว่าเป็นผู้ลอบวางระเบิด
