อนามัยโลกกังวลมาลาวี อหิวาตกโรคระบาดแรงสุด-สังเวยแล้วนับพันราย

อนามัยโลกกังวลมาลาวี – วันที่ 9 ก.พ. รอยเตอร์รายงานความคืบหน้าการระบาดของอหิวาตกโรคในประเทศมาลาวี ชาติในภาคตะวันออกของทวีปแอฟริกา ว่าส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,300 รายแล้ว ถือเป็นการระบาดครั้งรุนแรงที่สุดของอหิวาตกโรคในมาลาวี

ข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขของมาลาวี ระบุว่า พบผู้ป่วยอหิวาตกโรคแล้ว 40,284 คน ในจำนวนนี้ เสียชีวิตไปแล้ว 1,316 ราย หลังเกิดการระบาดของอหิวาตกโรคตั้งแต่เดือนมี.ค. 2565 โดยพบผู้ป่วยใหม่เฉลี่ย 500 คนต่อวัน

รายงานระบุว่า อหิวาตกโรคนั้นมักระบาดในมาลาวีทุกปีโดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุมระหว่างเดือนพ.ย. ถึงมี.ค. แต่จะมียอดผู้เสียชีวิตอยู่ราว 100 รายเท่านั้น

องค์การอนามัยโลก หรือดับเบิ้ลยูเอชโอ ระบุว่า การระบาดของอหิวาตกโรคในมาลาวีนั้นเป็นครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เคยมีการบันทึกมา โดยร้ายแรงกว่าสถิติเดิมที่มีผู้เสียชีวิต 860 รายเมื่อปี 2541 และ 968 รายเมื่อปี 2544

แม้ทางการมาลาวีจะเร่งดำเนินการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการใช้วัคซีนแบบรับประทานแต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการระบาดของอหิวาตกโรคในหลายชาติของทวีปแอฟริกา อาทิ โมซัมบีกและแซมเบีย ทำให้วัคซีนขาดแคลน

นอกจากนี้ ยังมีรายงานพบผู้ป่วยอหิวาตกโรคในอีกหลายชาติของทวีปแอฟริกา ได้แก่ แอฟริกาตะวันออก เอธิโอเปีย เคนยา โซมาเลีย รวมถึงคาเมรูน คองโก และไนจีเรียด้วย ตลอดจนแอฟริกาใต้ที่พบผู้ป่วยอหิวาตกโรค 2 คน เดินทางมาจากมาลาวี

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ระบุว่า อหิวาตกโรคมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย Vibrio cholerae ทำให้ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำอย่างมากโดยไม่มีอาการปวดท้อง

บางรายอุจจาระขาวขุ่นเหมือนน้ำซาวข้าว บางครั้งมีคลื่นไส้ อาเจียน สูญเสียน้ำอย่างรวดเร็วจนเกิดภาวะเป็นกรดในเลือด และการไหลเวียนโลหิตล้มเหลว

ติดต่อโดยการกินอาหารหรือน้ำที่มีเชื้อที่มีชีวิตปนอยู่ ส่วนเชื้อชนิดรุนแรงสามารถมีชีวิตอยู่ในน้ำได้เป็นเวลานาน การรับประทานอาหารทะเลดิบ หรืออาหารดิบๆสุกๆ เป็นสาเหตุของการระบาดทั่วไป การติดต่อระหว่างบุคคลสู่บุคคลโดยตรง พบได้น้อยมาก

ในรายที่มีอาการรุนแรงและไม่ได้รับการรักษาผู้ป่วยอาจเสียชีวิตในเวลา 2-3 ชั่วโมง และอัตราป่วยตายสูงมากกว่าร้อยละ 50 แต่ถ้าได้รับการรักษาถูกต้องและทันท่วงที อัตราป่วยตายจะลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 1

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน