วันที่ 18 มี.ค.บีบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกายินดีต่อกรณีที่ศาลอาญาระหว่างประเทศหรือไอซีซีออกหมายจับนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามในประเทศยูเครน เน้นที่การเนรเทศเด็กจากยูเครนไปยังรัสเซียอย่างผิดกฎหมายนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อเดือนก.พ.2565 ซึ่งทางการรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาและประณามว่า หมายจับช่างอุกอาจ

น.ส.มาเรีย ลโววา-เบโลวา คณะกรรมาธิการเพื่อสิทธิเด็กประจำทำเนียบรัสเซีย ขระอยู่ที่ทำเนียบ นอกกรุงมอสโก เมื่อ 16 ก.พ. (รอยเตอร์)

ผลจากการออกหมายจับในระดับมากไม่น่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากไอซีซีไม่มีอำนาจที่จะจับกุมผู้ต้องสงสัยโดยปราศจากการร่วมมือกันของรัฐบาล รัสเซียไม่ใช่สมาชิกไอซีซี ทำให้ศาลไอซีซีซีไม่มีอำนาจในรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม การออกหมายจับสร้างผลกระทบทางอื่นต่อนายปูติน อาทิ การไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ ทำให้ขณะนี้นายปูตินอาจถูกจับกุมได้ หากเยือนประเทศใดๆก็ตามที่เป็นสมาชิกไอซีซีซึ่งมีจำนวน 123 ประเทศ ทั้งนี้ นายปูตินเป็นเพียงประธานาธิบดีคนที่ 3 ที่ถูกไอซีซีออกหมายจับ

นายไบเดนระบุว่า ขณะที่ไอซีซีไม่มีอำนาจในสหรัฐด้วยเช่นกัน แต่การออกหมายจับสร้างจุดแข็งอย่างมาก ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐกำหนดอย่างเป็นทางการแล้วว่า รัสเซียกระทำอาชญากรรมสงครามระหว่างเหตุความขัดแย้งที่ยังคงดำเนินอยู่ในยูเครน ซึ่งเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา นางกมลา แฮร์ริส รองประธนาธิบดีสหรัฐอเมริกากล่าวว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องจะถูกนำตัวมาลงโทษ

สหประชาชาติหรือยูเอ็นเผยแพร่รายงานเมื่อสัปดาห์นี้ระบุ พบว่า รัสเซียเคลื่อนย้ายเด็กชาวยูเครนโดยบังคับไปยังหลายพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียนั้นเทียบเท่าอาชญากรรมสงคราม

ในแถลงการณ์ของไอซีซีเมื่อวันศุกร์ที่ 17 มี.ค.ระบุว่า มีเหตุผล ซึ่งเชื่อได้ว่านายปูตินกระทำอาชญากรรมสงครามโดยตรง ตลอดจนกระทำร่วมกับผู้อื่น อีกทั้งกล่าวหานายปูตินล้มเหลวที่จะใช้อำนาจของประธานาธิบดีที่จะหยุดการเนรเทศเด็ก นอกจากนี้ไอซีซียังออกหมายจับน.ส.มาเรีย ลโววา เบโลวา คณะกรรมาธิการเพื่อสิทธิเด็กของรัสเซียในข้อหาเดียวกัน

นายคาริม ข่าน อัยการไอซีซีระบุว่า หมายจับอยู่บนพื้นฐานของหลักฐานตามกระบวนการกฎหมาย การพิจารณาอย่างละเอียดและปากคำจากพยานบุคคล แม้แต่เดิม ศาลไอซีซีพิจารณาเก็บการออกหมายจับเป็นความลับ แต่ตัดสินใจประกาศให้สาธารณชนทราบในที่สุด เพื่อยุติอาชญากรรมที่กำลังเกิดขึ้นต่อไป








Advertisement

นายข่านชี้ให้เห็นด้วยว่า ไม่มีใครคาดคิดว่า นายสโลโบดาน มิโลเซวิก ผู้นำเซอร์เบีย ซึ่งถูกพิจารณาคดีในคดีอาชญากรรมสงครามในโครเอเชีย บอสเนียและโคโซโวในทศวรรษ 1990 จะลงเอยที่ศาลในกรุงเฮก เพื่อเผชิญหน้ากับกระบวนการยุติธรรม

“สำหรับผู้ที่รู้สึกว่าสามารถกระทำอาชญากรรมในตอนกลางวันและนอนหลับสนิทตอนกลางคืน บางทีก็ควรย้อนดูประวัติศาสตร์” นายข่านกล่าว

ด้านนายดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียระบุว่า การตัดสินใจใดๆของศาลไม่มีผลตามกฎหมาย และนายดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซียเปรียบเทียบหมายจับกับกระดาษชำระในห้องส้วม

นายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนแสดงความขอบคุณต่อนายข่านและไอซีซีซี สำหรับการตัดสินใจที่จะตั้งข้อหาดังกล่าว

……………

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน