วันที่ 2 ก.ค.เอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวฟิลิปปินส์รู้สึกอับอายและไม่พอใจ หลังจากบริษัทโฆษณา ภายใต้สัญญาจ้างผลิตวิดีโอโปรโมตการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ในฐานะที่เป็นปลายการท่องเที่ยวในวันหยุดยอมรับว่า ใช้รูปจากชาติอื่นรวมถึงภาพนาขั้นบันไดในจ.บาหลีของอินโดนีเซียและเนินทรายของบรูไน นอกจากนี้ยังมีสวิตเซอร์แลนด์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี พร้อมกล่าวขอโทษสำหรับการนำภาพจากคลังภาพต่างชาติมาใช้ในงาน
นอกจากนี้ ทีมตรวจสอบข้อเท็จจริงของสำนักข่าวเอเอฟพียืนยันว่า วิดีโอแสดงสถานที่ต่างๆในประเทศบราซิล อินโดนีเซีย สวิตเซอร์แลนด์และยูเออีจริง
DDB บริษัทโฆษณาระบุว่า การตรวจสอบคัดกรองและกระบวนการอนุมัติควรได้รับการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด การใช้คลังภาพต่างประเทศในแคมเปญรณรงค์การท่องเที่ยวฟิลิปปินส์เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมอย่างสูงและขัดกับวัตถุประสงค์ของกรมการท่องเที่ยวและว่า ค่าใช้จ่ายจากวิดีโอที่ผลิตขึ้น บริษัท DDB รับผิดชอบเองทั้งหมด
ด้านโฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวไม่ตอบสนองต่อการขอความคิดเห็นจากสำนักข่าวเอเอฟพี
การแถลงยอมรับและขอโทษของบริษัทผลิตโฆษณาเกิดขึ้นหลังจากกระทรวงท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ประกาศเมื่อช่วงดึกของวันที่ 1 ก.ค. ว่า กระทรวงฯ กำลังสอบสวนจากการกล่าวหาว่า วิดีโอไม่ได้มาจากภาพดั้งเดิมของฟิลิปปินส์
วิดีโอโปรโมตการท่องเที่ยว ส่วนหนึ่งของโปรเจ็ก “รักฟิลิปปินส์-Love The Philippines” มูลค่าโครงการ 900,000 ดอลล่าร์สหรัฐหรือราว 31 ล้านบาท ซึ่งเปิดโครงการไปเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากข้อมูลขององค์การท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติระบุว่า ฟิลิปปินส์มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือน 2.7 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว ลดลงร้อยละ 68 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโรคโควิด-19ในปี 2562
………….