แม่ลูกสอง “คลั่งสัก” – เดลีสตาร์ รายงานเรื่องราวของหญิง คลั่งสัก ที่เชื่อว่าตนเองเป็นบุคคลที่มีรอยสักมากที่สุดในโลก ด้วยรอยสักมากกว่า 800 ลายทั่วร่างกาย และใบหน้าที่สักซ้อนกันถึง 3 ชั้น
แต่ความชื่นชอบในงานศิลปะบนผิวหนังกลับทำให้ชีวิตของเมลิสซา สโลน หญิงชาวเวลส์ วัย 46 ปี ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เพราะไม่มีที่ไหนรับเมลิสซาเข้าทำงาน แถมยังถูกห้ามเข้าโรงเรียนของลูกๆ และแม้แต่ผับบาร์ร้านโปรดก็ไม่อนุญาตให้เมลิสซาเข้าใช้บริการเนื่องจากลูกค้าคนอื่นหวาดกลัวรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมลิสซา
“ฉันหางานไม่ได้ พวกเขาไม่ยอมให้ฉันทำ ฉันสมัครงานทำความสะอาดห้องน้ำในที่ที่ฉันอาศัยอยู่ แต่พวกเขาไม่รับฉันเพราะรอยสัก” เมลิสซาเปิดใจ และว่าไม่ใช่แค่งานเท่านั้นที่ตนต้องดิ้นรนหา
เพราะตั้งแต่ปลายปี 2565 ตนถูกห้ามไม่ให้ไปที่โรงเรียนของลูกๆ และต้องแอบดูลูกเล่นสนุกกับเพื่อนๆ ผ่านทางหน้าต่างเพื่อไม่ให้คนอื่นมองเห็นตัวตนที่เต็มไปด้วยรอยสัก “ไม่มีงานปาร์ตี้คริสต์มาส และเมื่อฉันไปที่โรงเรียนของลูก ฉันก็ไม่ได้รับเชิญ” เมลิสซากล่าว
คุณแม่ลูกสองยังเปิดเผยอีกว่าแม้แต่จะเข้าร้านสักก็ยังเป็นปัญหา ช่างสักหลายคนปฏิเสธที่จะสักลวดลายบนใบหน้าของตนเพราะกลัวนิสัยคลั่งสัก
“พวกเขาไม่ทำให้เพราะฉันสักมากไป ” เมลิสซาอธิบาย และว่าร้านสักหลายแห่งห้ามไม่ให้ตนเข้าไปใช้บริการ เช่นเดียวกับสถานบันเทิง “ฉันถูกห้ามเข้าผับตลอดชีวิตเพราะรอยสัก ฉันไปผับแล้วคนก็มองฉันเหมือนไม่มีค่า”
ทั้งนี้ ผิวหนังเกือบทุกตารางนิ้วบนใบหน้าของเมลิสซามีลวดลายการสัก รวมถึงลายดอกไม้และไม้กางเขนบริเวณแก้ม คาง และหน้าผาก แต่เมลิสซาตัดสินใจว่าการสักแค่ชั้นเดียวยังไม่เพียงพอ และเริ่มสักลายต่างๆ เพิ่มเติมเป็นชั้นที่สอง และสาม สิ่งนี้ทำให้เมลิสซาเชื่อว่าตนเป็นคนที่สักลายมากที่สุดในโลก
“ฉันอยากเป็นเจ้าของสถิติ มันแค่แตกต่างออกไป ฉันพยายามจะให้มีชื่ออยู่ในกินเนสส์บุ๊กออกเรคคอร์ด ฉันมีรอยสักสามชั้นบนใบหน้า ฉันน่าจะมีรอยสักมากที่สุดในโลก และถ้ายังไม่ใช่ ด้วยการสักที่ฉันยังทำต่อไปฉันคงได้เป็นคนคนนั้นในท้ายที่สุด ฉันจะสักซ้ำแล้วซ้ำอีก” เมลิสซากล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: