เว็บไซต์สเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ รายงานเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ว่า เฟซบุ๊ก โซเชียลมีเดียชื่อดัง ปิดเพจของ “วีระธุ” พระสงฆ์ชาวพม่าชาตินิยมสุดขั้วที่รู้จักกันในสมญานาม “บิน ลาเดน แห่งพุทธศาสนา” จากการใช้เพจเผยแพร่ข้อความปลุกความเกลียดชังชาวมุสลิม ในช่วงที่เฟซบุ๊กดำเนินนโยบายยับยั้งเผยแพร่คำพูดที่สร้างความเกลียดชังบนโลกโซเชียล
โฆษกของเฟซบุ๊กชี้แจงว่า ปิดเพจของวีระธุตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคม 2018 ตามนโยบายมาตรฐานของชุมชน ซึ่งห้ามองค์กรหรือบุคคลใด มุ่งใช้เฟซบุ๊กเพื่อส่งเสริมความเกลียดชังและความรุนแรงต่อผู้อื่น และหากบุคคลใดทำการแชร์เนื้อหาที่ปลุกความเกลียดชังอย่างต่อเนื่อง อาจต้องดำเนินมาตรการที่กำหนด เช่น ระงับการโพสต์ชั่วคราวหรือขั้นสุดท้ายคือ การปิดเพจ
ด้านพระวีระธุ กล่าวในวิดีโอเมื่อปีที่แล้วว่าเพจของตน ถูกระงับชั่วคราว 30 วัน พร้อมโจมตีว่าเฟซบุ๊กถูกยึดครองโดยพวกมุสลิม
นายเทย์ เซย์ วิน นักเคลื่อนไหวชาวพม่า กล่าวว่า ท่าทีของเฟซบุ๊กเป็นการส่งข้อความเชิงสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าจะไม่ทนต่อคำพูดเพื่อสร้างความเกลียดชัง อย่างไรก็ตาม การปิดเพจก็ยังไม่ใช่วิธีแก้ไขปัญหา เพราะแม้ว่าจะปิดเพจไปแล้วแต่ยังมีวิดีโอและคำเทศน์ที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังที่ยังอยู่บนเฟซบุ๊กและลูกศิษย์ของเขาจะเผยแพร่ต่อไป
AFP PHOTO / ROMEO GACAD
สำหรับพระวีระธุ เป็นพระภิกษุชื่อดังในขบวนการพระชาตินิยมสุดโต่ง ที่มีเครือข่ายสานุศิษย์ติดตามมากกว่าแสนคน ได้ใช้เฟซบุ๊กในการโจมตีมุสลิม โดยเฉพาะชาวมุสลิมโรฮิงยา ซึ่งประสบชะตากรรมถูกขับไล่ เกือบ 7 แสนคนในรัฐยะไข่ ต้องลี้ภัยไปอยู่ชายแดนบังคลาเทศ หลังจากทหารพม่าเปิดฉากปฏิบัติการกวาดล้าง แม้จะเสียงประณามจากนานาประเทศ แต่ชาวพม่าชาตินิยมบนโลกออนไลน์กลับแสดงความชื่นชม
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กขยายตัวเติบโตมากในพม่านับตั้งแต่รัฐบาลกึ่งพลเรือนเปิดเสรีด้านโทรคมนาคมในปี 2013 ทำให้ชาวพม่าที่เป็นชาวพุทธส่วนใหญ่ ต่างใช้โซเชียลมีเดียนี้กันอย่างคึกคัก แม้แต่พระหัวรุนแรงอย่างวีระธุก็ใช้โซเชียลมีเดียนี้ เผยแพร่ข้อความที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อมุสลิม และในช่วงที่เกิดวิกฤตผู้อพยพโรฮิงยา เฟซบุ๊กยังปิดเพจผู้ใช้งานที่เผยแพร่ข้อความสร้างความเกลียดชังด้วย
