พลัดพรากมานาน ชายผู้บริจาคสเปิร์มนาน 6 ปี จนกลายเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดทายาทกว่า 96 คน ลั่นลาออกจากงาน ตั้งเป้าเดินทางดูหน้าลูกๆ จนครบ

เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า ชายผู้บริจาคสเปิร์มรายนี้ชื่อว่า นายดีแลน สโตน-มิลเลอร์ วิศวกรซอฟต์แวร์วัย 32 ปี ตัดสินใจลาออกจากงาน ใช้เงินเก็บเป็นทุนในการเดินทางเป็นระยะทางกว่า 9,000 ไมล์หรือเกือบ 15,000 กม. เพื่อตามไปดูหน้าเด็กๆ ที่เขามีส่วนให้กำเนิดถึง 96 คน และขณะนี้ เขาได้พบหน้าเด็ก ๆ ที่ถือว่าสืบสายเลือดของเขาไปแล้ว 25 คน

ตามรายงานเผยว่า การเดินทางครั้งนี้มีแรงบันดาลใจมาจากการที่เขาได้เห็นหน้าเด็กทารกหญิงที่ชื่อว่า ฮาร์เปอร์ ซึ่งเป็นลูกคนหนึ่งของเขาเป็นครั้งแรกเมื่อเธออายุ 3 ขวบ ด้วยเหตุนี้มันทำให้เขารู้สึกว่าอยากเห็นหน้าเด็กๆ ที่เขาเป็นผู้ให้กำเนิดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ภาพประกอบ

นายมิลเลอร์ ได้เล่าว่า เขาเริ่มบริจาคสเปิร์มตั้งแต่สมัยเรียนวิทยาลัยที่รัฐจอร์เจีย สหรัฐ เพื่อหารายได้พิเศษยาวนานถึง 6 ปี โดยได้รับค่าตอบแทนครั้งละ 100 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 3,500 บาท และตามข้อมูลเท่าที่นับได้ เขามีส่วนในการให้กำเนิดเด็กๆ ไม่ต่ำกว่า 96 คน และอนุญาตให้ธนาคารสเปิร์มบางแห่งเปิดเผยตัวตนของเขาต่อลูกๆ ได้ เมื่อเด็กเหล่านี้อายุครบ 18 ปี

อย่างไรก็ตาม เมื่อนายมิลเลอร์แยกทางกับภรรยาในปี 2563 เขาได้รับข้อความจาก อลิเซีย โบวส์ ซึ่งกล่าวขอบคุณเขาที่บริจาคสเปิร์มให้ครอบครัวของเธอ และถือว่าเป็นพ่อทางสายเลือดของลูกสาวของเธอ โดยอาศัยร่องรอยที่ได้จากโซเชียลมีเดีย เช่น ชื่อตัวและอาชีพของเขา

ภาพประกอบ

ต่อมา สโตน-มิลเลอร์ ก็ขอเข้าร่วมกลุ่มของพ่อแม่ที่ได้ลูกจากการสเปิร์มของเขาซึ่งตั้งชื่อกลุ่มว่า ‘Xytex 5186 Offspring’ ตามหมายเลขประจำตัวในการบริจาคสเปิร์มของเขา พร้อมทั้งเอ่ยปากขอร้องว่าอยากพบเด็กๆ ที่เขามีส่วนในการให้กำเนิด

ภายหลังมีผู้ปกครองตอบตกลงถึง 20 ครอบครัว กระนั้นในการพบเด็กๆ บางรายก็มีความลำบากใจไม่น้อย อย่าง แม่ของ ฮาร์เปอร์ ที่ไม่อยากให้ลูกสาวของเธอเรียกเขาว่า “พ่อ” ขณะที่ นายมิลเลอร์เองก็ลำบากใจมากที่จะต้องบอกลูกสาวของเขาว่า เขาไม่ใช่พ่อของเธอ

ภาพประกอบ

ทั้งนี้ นายมิลเลอร์ ก็เริ่มทำบัญชีรายชื่อเด็กๆ ที่เขาเป็นผู้ให้กำเนิดซึ่งมีทั้งชื่อ อายุ เพศ และวันเกิด รวมถึงวันที่พวกเขาได้พบปะหรือติดต่อสื่อสารกัน เพื่อติดตามการเติบโตของลูกๆ ของเขา

ภาพประกอบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน