ลิเบียแจงอย่าโทษรัฐบาล ยันสั่งอพยพ หนีน้ำท่วมไซซ์สึนามิ หลังประชาชนตายเป็นเบือ กลิ่นศพคลุ้งทั่วเมือง ยังสูญหายอีกหลายพันคน
ลิเบียแจงอย่าโทษรัฐบาล-วันที่ 16 ก.ย.เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ภัยพิบัติจากเหตุน้ำท่วมในประเทศลิเบียว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลลิเบียตะวันออกปฏิเสธข้อกล่าวหากรณีที่ประชาชนจำนวนมากเสียชีวิตในเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งรุนแรงเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่สั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน โดยนายออธมาน อับดุล จาลิล โฆษกรัฐบาลลิเบียตะวันออกชี้แจงว่า ทหารเตือนประชาชนในเมืองเดอร์นาให้หนีออกจากเมืองแล้ว และปฏิเสธรายงานที่ระบุว่าประชาชนไม่ได้รับคำสั่งให้อพยพ แต่ยอมรับว่าบางส่วนอาจรู้สึกว่าภัยน้ำท่วมถูกทำให้รุนแรงเกินจริง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) แถลงว่า ลิเบียสามารถหลีกเลี่ยงจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมจำนวนมากได้ หากมีระบบเตือนภัยล่วงหน้าและระบบการจัดการเหตุฉุกเฉินที่ถูกต้องเหมาะสม และหลายฝ่ายกล่าวโทษว่าเป็นเพราะระบบโครงสร้างพื้นฐานทรุดโทรมและไม่ได้รับการซ่อมแซม
ขณะเดียวกันหน่วยงานช่วยเหลือยังไม่มาถึงเมืองเดอร์นา รวมถึงวี่แววของหน่วยงานช่วยเหลือระหว่างประเทศที่สำคัญๆยังมีเพียงเล็กน้อย ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยและช่วยเหลือฉุกเฉิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพกำลังทำงานระบุอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต โดยโฆษกองค์กรความช่วยเหลือแห่งหนึ่งระบุว่า การพยายามที่จะประสานงานความช่วยเหลือในประเทศลิเบียเป็นฝันร้าย
สถานการณ์ในลิเบียทำให้เกิดการรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ขัดแย้งกัน บางรายงานระบุว่า ตั้งแต่ 6,000-10,000 ราย อีกหลายพันคนยังคงสูญหาย ส่วนนายอับดุลเมนัม อัลไกธี นายกเทศมนตรีเมืองเดอร์นาเตือนว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจถึง 20,000 ราย เจ้าหน้าที่ภายใต้รัฐบาลลิเบียตะวันออกประเมินยอดผู้เสียชีวิตต่างกัน โดยระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิต 3,840 ราย แต่หลายฝ่ายเห็นพ้องกันว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นสูงอย่างมาก โดยร่างผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งถูกคลื่นพัดลงทะเลไปไกลจากเมืองเดอร์นากว่า 100 กิโลเมตร
Advertisement
นายเยนส์ ลาเคอร์ โฆษกสำนักช่วงเหลือด้านมุนษยธรรมยูเอ็นระบุว่า ยังมีผู้รอดชีวิตและศพติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง จึงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งก่อนที่จะสามารถสรุปยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บได้ โดยขณะนี้มากกว่า 1,000 ศพถูกฝังรวมในหลุมศพขนาดใหญ่
วันเดียวกันเอเอฟพีรายงานว่า หน่วยงานความช่วยเหลือรวมถึงองค์กรความช่วยเหลืออิสลามทั่วโลกและองค์การแพทย์ไร้พรมแดนหรือเอ็มเอสเอฟเตือนถึงความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคที่อาจทำให้วิกฤตด้านมนุษยธรรมในลิเบียซับซ้อนยิ่งขึ้น ตลอดจนความยากลำบากอย่างมากในการส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ขณะที่ความหวังในการค้นหาผู้รอดชีวิตเลือนราง
หลังจากน้ำท่วมเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ทำให้เมืองเดอร์นา เมืองท่าทางตะวันออกจมใต้น้ำ กวาดประชาชนหลายพันคนและบ้านเรือนหลายหลังจมลงทะเล หลังจากเขื่อนต้นน้ำ 2 แห่งพังลงมา เนื่องจากแรงกดของฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุเฮอริเคนที่ก่อตัวในทะเลเมอร์ดิเตอร์เรเนียน
องค์กรความช่วยเหลืออิสลามทั่วโลกเตือนว่า อาจเกิดวิกฤตมนุษยธรรมครั้งที่ 2 หลังจากเหตุน้ำท่วม ซึ่งเกิดจากความเสี่ยงการเกิดโรคที่มากับน้ำและการขาดแคลนอาหาร ที่พักอาศัยชั่วคราวและยารักษาโรค โดยประชาชนหลายพันคนไม่มีที่พักอาศัยให้หลับนอนและไม่มีอาหาร ซึ่งในสถานการณ์ลักษณะนี้ โรคแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากระบบน้ำปนเปื้อน และว่าเมืองเดอร์นามีกลิ่นเหมือนศพ
ด้านองค์การแพทย์ไร้พรมแดนระบุว่า ประจำการทีมบริเวณด้านตะวันออกของลิเบียเพื่อประเมินน้ำและสุขอานามัย แต่กาชาดสากลและองค์การอนามัยโลกระบุว่า ศพเหยื่อภัยพิบัติน้ำท่วมแทบไม่เป็นอัตรายต่อสุขภาพ ขณะนี้ทีมสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศในลิเบียยังคงค้นหาผู้รอดชีวิตและกู้ศพขึ้นจากซากปรักหักพังในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดในเมืองเดอร์นา
นายอาห์เหม็ด อัลเมสมารี โฆษกของนายพลคาลิฟา ฮัฟตาร์ ผู้บัญชาการกองทัพลิเบียตะวันออกระบุเมื่อวันศุกร์ที่ 15 ก.ย.ว่า ต้องการความช่วยเหลืออย่างมากสำหรับการฟื้นฟูและบูรณะเมือง และสหประชาชาติหรือยูเอ็นประกาศขอความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบกว่า 71 ล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือราว 2.5 พันล้านบาท และเตือนว่า ความรุนแรงของภัยพิบัตยังไม่สามารถสรุปได้ ตลอดจนเรียกร้องให้รัฐบาลลิเบียตะวันตก ซึ่งยูเอ็นและนานาชาติรับรอง และรัฐบาลลิเบียตะวันออก ประสานความร่วมมือกัน
…………….
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
• ลิเบียหวั่น “เหยื่อน้ำท่วม” พุ่ง 2 หมื่นราย-ยูเอ็นกังวลโรคจาก “น้ำปนเปื้อน” ซ้ำเติม