ร้านซูชิสายพานใช้ระบบ “ดิจิทัล” – สเตรตส์ไทมส์ รายงานว่า ร้านซูชิสายพาน “ซูชิโระ” ของญี่ปุ่นเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าสั่งเมนูผ่านหน้าจอดิจิทัลได้แล้วในบางสาขา หลังเกิดกระแสลูกค้าบางส่วนทำพฤติกรรมพิเรนทร์ที่ถูกเรียกว่า “ก่อการร้ายซูชิ” เลียอาหารแล้วนำกลับไปวางบนสายพานเมื่อต้นปีที่ผ่านมาจนกระทบต่อร้านซูชิสายพานทั่วประเทศ
การบริการรูปแบบใหม่นี้แทนที่จะวางจานอาหารลำเลียงมาบนสายพานก็เปลี่ยนเป็นติดตั้งจอภาพแบบสัมผัสไว้ที่โต๊ะเพื่อให้ลูกค้ากดสั่งอาหาร โดยหน้าจอมีความกว้างเป็นพิเศษขนาด 0.5×1.5 เมตร และมีภาพสายพานจานซูชิเสมือนจริงเลื่อนมาเหมือนเวลาใช้บริการร้านซูชิสายพาน
スシローに来たよ🍣 pic.twitter.com/ybkNMgeauI
— yasuko (@knot845) October 3, 2023
เมื่อแตะหน้จอเลือกเมนูแล้ว คำสั่งจะส่งตรงไปยังห้องครัวซึ่งจะปรุงสดใหม่ทุกจานและเป็นปัจจัยสำคัญของการเสิร์ฟอาหารทะเลดิบ ข้อดีอีกประการคือ ลูกค้าจะได้รับอาหารจานโปรดโดยไม่ถูกลูกค้าคนอื่นชิงจานที่เล็งไว้ไปเสียก่อน
นอกจากนี้ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์แปลกใหม่คล้ายกับการเล่นเกมโดยเลือกโหมดกอดหรือดักโกซูชิซึ่งมีตัวการ์ตูนหลากหลายแบบมากอดหน้าซูชิแบบต่างๆ และยังเสริมลูกเล่นด้วยการเล่นถามตอบซึ่งอาจจะมีรางวัลให้ด้วยขึ้นอยู่กับจำนวนจานที่สั่งมารับประทาน
ก่อนหน้าที่จะพัฒนามาเป็นดิจิโระ ซูชิโระเคยใช้หน้าจอสัมผัสขนาดเล็กกว่ามาแล้วเพื่อให้ลูกค้าเลือกเมนูได้ตามใจชอบ ซูชิโระมีสาขาเกือบ 650 แห่งในญี่ปุ่น และอีก 88 แห่งทั่วโลก ส่วนไทยมี 18 สาขา
Advertisement
บริษัท อะคินโดะ ซูชิโระ เจ้าของแบรนด์ซูชิโระ ประกาศเริ่มใช้ “ดิจิทัล ซิชิโระ วิสชัน” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “ดิจิโระ” เมื่อวันพุธที่ 4 ต.ค. โดยเริ่มนำร่องที่ร้านสาขา 2 แห่งในกรุงโตเกียวและเมืองโอซากา ส่วนเมืองนาโงยาเริ่มวันที่ 5 ต.ค. และมีแผนจะขยายรูปแบบการสั่งอาหารผ่านหน้าจอดิจิทัลไปทั่วประเทศขึ้นอยู่กับผลการทดลอง
นายโคเฮอิ นิอิ ประธานบริษัท อะคินโดะ ซูชิโระ กล่าวว่าเทคโนโลยีดิจิทัลช่วยให้สร้างความเพลิดเพลินกับซูชิสายพาน และว่าดิจิโระไม่ได้ออกแบบมารับมือกับ “การก่อการร้ายซูชิ” โดยตรงซึ่งเกิดเหตุในลักษณะนี้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ระบบนี้รองรับมาตรการสุขอนามัยและประหยัดแรงงานมากขึ้น
การก่อการร้ายซูชิเป็นข่าวใหญ่เมื่อวัยรุ่นหลายคนถ่ายคลิปในร้านซูชิ รวมทั้งซูชิโระ ขณะกำลังเลียสิ่งของในร้าน เช่น ขวดซอสหรือซูชิก่อนวางกลับบนสายพานทำให้มีผู้ถูกจับกุมหลายคน และส่งผลให้ลูกค้าร้านซูชิลดลง
นายโนบูโอะ โยเนะกาวะ ผู้เชี่ยวชาญด้านนอุตสาหกรรมซูชิกล่าวว่าเพียงจำนวนลูกค้าลดลงร้อยละ 0.1 จะทำให้สูญเสียรายได้ประมาณ 100 ล้านเยนหรือประมาณ 24 ล้านบาท จึงต้องใช้เวลาและเงินเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องกลั่นแกล้งขึ้นอีกและร้านซูชิจะต้องแบกรับภาระจากการขาดรายได้จนกว่ามาตรการป้องกันจะได้ผล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: