วันที่ 9 ต.ค.บีบีซีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอลว่า สหรัฐกำลังเคลื่อนเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือและเครื่องบินรบไปยังทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและจะจัดสรรอาวุธยุทโธปกรณ์และกระสุนเพิ่มเติมแก่อิสราเอล
ภายหลังจากกลุ่มติดอาวุธฮามาสโจมตีทางตอนใต้ของอิสราเอล นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐระบุว่า เป็นการโจมตีที่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและน่าใจหาย ส่วนโฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐกล่าวว่า พลเรือนสหรัฐเสียชีวิตหลายคนและเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบรายงานที่พลเรือนสหรัฐถูกจับตัวไป ขณะที่อิสราเอลระบุว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 700 ราย และอีก 100 คนถูกลักพาตัว เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 400 คนถูกสังหาร หลังจากอิสราเอลโจมตีทางอากาศโต้กลับ
นายพลลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมระบุว่า เรือบรรทุกเครื่องบินเจอรัล อาร์ ฟอร์ด ขีปนาวุธนำวิถี 1 ลำและเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี 4 ลำกำลังมุ่งหน้าไปทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากนี้ ทำเนียบขาวระบุว่า สหรัฐจะส่งความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมไปยังอิสราเอลในอีกไม่กี่วันข้างหน้า สหรัฐกำลังทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าศัตรูของอิสราเอลจะไม่พยายามแสวงหาข้อได้เปรียบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้
นายอิบราฮิม ราซี ประธานาธิบดีอิหร่านแสดงความสนับสนุนการโจมตีของฮามาส และว่า อิสราเอลต้องรับผิดชอบในการทำให้ภูมิภาคนี้ตกอยู่ในอันตราย ส่วนฮามาสระบุว่า อิหร่านได้ช่วยเหลือฮามาสในการโจมตีอิสราเอล ซึ่งรวมถึงจรวด โดรนและนักรบติดอาวุธที่ใช้ร่มร่อนเข้าแทรกซึมในดินแดนอิสราเอล ตลอดจนนักรบหลายร้อยคนฝ่าป้อมปราการตามแนวชายแดนฉนวนกาซ่าเข้าไป อย่างไรก็ตาม นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐระบุว่า สหรัฐไม่พบหลักฐานความเกี่ยวข้องของอิหร่านโดยตรง แต่อิหร่านได้เคยช่วยเหลือกลุ่มฮามาสมานานหลายปี
ขณะที่ในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยุเอ็นเอสซีระบุว่า อิหร่านปฏิเสธความเกี่ยวข้องในการโจมตีต่ออิสราเอล หลังจากเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 ต.ค. กลุ่มฮามาส นักรบติดอาวุธชาวปาเลสไตน์ประกาศปฏิบัติการอัล-อักซา ฟลัด โดยยิงจรวดโจมตีมากกว่า 5,000 ลำในเวลา 20 นาที และว่า ตัดสินใจที่จะยุติอาชญากรรมทั้งหมดของการยึดครองของอิสราเอล ถึงเวลาที่การก่อความรุนแรงโดยไม่ต้องรับผิดชอบของอิสราเอลสิ้นสุดลงแล้ว
