เมื่อ 3 มี.ค. เอเอฟพีรายงานว่า เกิดพายุ “ไรลีย์” พัดถล่มอย่างรุนแรงทางซีกตะวันออกของสหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิตแล้วทันที 5 ราย เป็นเด็ก 2 ราย ส่วนใหญ่เนื่องจากถูกต้นไม้ล้มทับ

อิทธิพลของพายุก่อให้เกิดลมกระโชก หิมะตก และฝนตกหนักในเมืองใหญ่ตลอดแนวชายฝั่ง ส่งผลให้สหรัฐเตือนคลื่นลมแรงตั้งแต่รัฐนิวเจอร์ซีย์ ไปจนถึงแมสซาชูเซตส์ รวมทั้งพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปจนถึงภาคกลางของประเทศทั้งหมด

เมืองสวอมป์สก็อตต์ แมสซาชูเส็ตส์ (AP Photo/Elise Amendola)

ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการถูกต้นไม้ใหญ่ล้มทับ ส่วนท่าอากาศยานลากวาร์เดียในรัฐนิวยอร์ก ประกาศระงับเที่ยวบินทั้งหมดกว่าครึ่ง และแอมแทร็ก ผู้ให้บริการรถไฟประกาศระงับการให้บริการชั่วคราว

เมืองเวสต์ สต็อกบร ดจ์ แมสซาชูเส็ตส์ (Ben Garver/The Berkshire Eagle via AP)

ด้านสถานการณ์พายุหิมะพัดถล่มในทวีปยุโรปตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเกินกว่า 60 รายแล้ว โดยชาติที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด คือ โปแลนด์ 23 ราย

คลองในกรุงดับลิน ไอร์แลนด์ (Brian Lawless/PA via AP)

อย่างไรก็ตาม สำนักพยากรณ์อากาศของอังกฤษและฝรั่งเศส ระบุว่า สถานการณ์ในบางพื้นที่เริ่มดีขึ้นเปลี่ยนเป็นมีฝนตกแทนพายุหิมะ และอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้นภายในสัปดาห์หน้านี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน