มือบึ้มกองทัพแดงญี่ปุ่น – สเตรตส์ไทมส์ รายงานว่า นายซาโตชิ คิริชิมะ อายุ 70 ปี มือวางระเบิดกลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายซ้ายสุดโต่งและเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจญี่ปุ่นต้องการตัวมากที่สุดมาตลอดเกือบ 50 ปี เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากสื่อญี่ปุ่นเปิดเผยว่าชายชราที่เข้ารับการรักษาโรคมะเร็งที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งโดยใช้ชื่อปลอมนั้น จริงๆ แล้วคือนายคิริชิมะ
ขณะที่ตำรวจเร่งตรวจสอบดีเอ็นเอของชายซึ่งเชื่อว่าเป็นนายคิริชิมะ แหล่งข่าวเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์อาซาฮีว่าเจ้าพนักงานตรวจสอบประวัติในอดีตและพบว่ามีความเป็นไปได้สูงที่บุคคลคนนี้จะเป็นนายคิริชิมะ ส่วนรายละเอียดต่างๆ ว่านายคิริชิมะหลบซ่อนได้อย่างไรในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมากำลังจะได้รับการไขปริศนา
เรื่องราวของนายคิริชิมะได้รับความสนใจอย่างมากเพราะเมื่อ 50 ปีก่อนตามสถานีตำรวจทั่วประเทศญี่ปุ่นติดโปสเตอร์ประกาศตามหาคนร้ายหลบหนีซึ่งก็คือนายคิริชิมะ เป็นชายหนุ่มผมยาว สวมแว่นตาและยิ้มกว้างซึ่งต่อมากลายเป็นต้นแบบคอสตูมช่วงฮาโลวีนที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
ก่อนก่อเหตุนายคิริชิมะศึกษาที่มหาวิทยาลัยในกรุงโตเกียวและสนใจการเมืองฝ่ายซ้ายจัดจึงเข้าร่วมกลุ่มติดอาวุธต่อต้านญี่ปุ่นในเอเชียตะวันออกซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่เคลื่อนไหวในยุคนั้น โดยร่วมมือกับกองทัพแดงญี่ปุ่นหรือกลุ่มบาเดอร์-ไมน์ฮอฟในเยอรมนีตะวันตกซึ่งแบ่งปฏิบัติการเป็น 3 เครือข่ายในชื่อ “หมาป่า” “เขี้ยวแห่งโลก” และ “แมงป่อง” ซึ่งเป็นต้นสังกัดที่นายคิริชิมะเข้าร่วม
เดือนเม.ย.2518 นายคิริชิมะถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมวางระเบิดทำลายอาคารบางส่วนในย่านกินซ่า กรุงโตเกียว แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต ก่อนหลบหนีตั้งแต่นั้นมา
สถานีโทรทัศน์อาซาฮีและสื่ออื่นๆ รายงานว่านายคิริชิมะใช้ชื่อปลอมว่า ฮิโรชิ อูชิดะ ทำงานให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างในเมืองฟูจิซาวะ จังหวัดคานางาวะ ได้รับค่าแรงเป็นเงินสดและยังคงถูกทางการเฝ้าจับตามองโดยที่ไม่มีทั้งประกันสุขภาพหรือใบขับขี่ ส่วนคนที่สำนักงานซึ่งรับนายคิริชิมะเข้าทำงานระบุว่าผู้ต้องสงสัยผอมมากเมื่อเทียบกับรูปในโปสเตอร์ประกาศจับ
Advertisement
ทั้งนี้ ชายซึ่งเชื่อว่าเป็นนายคิริชิมะเริ่มเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งกระเพาะอาหารโดยจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองที่โรงพยาบาลในเมืองคามาคุระ จังหวัดคานางาวะ กระทั่งช่วงสุดท้ายของชีวิตเลยบอกกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่าตัวเองเป็นใครเพราะอยากตายไปพร้อมกับชื่อจริง
หนังสือพิมพ์อาซาฮีรายงานด้วยว่าสมาชิกแนวร่วมต่อต้านญี่ปุ่นในเอเชียตะวันออกอีก 9 คนถูกจับตัวได้ แต่สมาชิกวัย 75 ปียังคงหลบหนีหลังได้รับการปล่อยตัวในปี 2520 เพราะเข้าร่วมกองทัพแดงญี่ปุ่นจี้เครื่องบินสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ในบังกลาเทศ
ส่วน นางฟุซาโกะ ชิเกโนบุ ฉายา “ราชินีแห่งความสะพรึง” ผู้ก่อตั้งกองทัพแดงญี่ปุ่นได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำในปี 2565 หลังพ้นโทษ20 ปีฐานปิดล้อมสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อปี 2517
กลุ่มของนางชิเกโนบุใช้อาวุธก่อเหตุหลายครั้งเพื่อเรียกร้องสิทธิให้กับชาวปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอลรุกรานเมื่อ 40-50 ปีก่อน รวมทั้งก่อเหตุกราดยิงที่สนามบินกรุงเทล อาวีฟ เมื่อปี 2515 คร่าชีวิตผู้คนไป 24 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: