ชิลีระดมกำลังดับ – วันที่ 5 ก.พ. เอเอฟพี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ ไฟป่า รุนแรงในพื้นที่ตอนกลางของ ชิลี ประเทศในทวีปอเมริกาใต้ หลังไฟป่าปะทุตั้งแต่วันศุกร์ที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 112 ราย
ขณะที่ประธานาธิบดีกาเบรียล บอริก ผู้นำชิลี เตือนว่าความสูญเสียจะเพิ่มขึ้นและว่าหน่วยกู้ภัยยังระดมกำลังค้นหา รวมถึงช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง “เรารู้ว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” นายบอริกย้ำภายหลังประกาศภาวะฉุกเฉิน
พร้อมให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือประชาชนให้กลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง ก่อนเสริมว่าเหตุไฟป่าครั้งนี้ถือเป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่สุดของประเทศนับตั้งแต่เหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อปี 2553 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตราว 500 ราย
หน่วยงานบริการด้านภัยพิบัติแห่งชาติ (SENAPRED) ระบุว่าไฟเผาวอดพื้นที่ป่าราว 162,500 ไร่ (เกือบ 26,000 เฮกตาร์) ทั่วทั้งตอนกลางและตอนใต้ โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1,400 นาย ทหาร 1,300 นาย อาสาสมัครจำนวนมาก พร้อมด้วยเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินบรรทุกน้ำรวม 31 ลำเร่งดับไฟป่า
นายอัลวาโร ออร์มาซาบัล หัวหน้าหน่วยภัยพิบัติ กล่าวว่านักดับเพลิงกำลังต่อสู้กับไฟป่า 34 จุดเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 4 ก.พ. ขณะที่ไฟป่าอีก 43 จุดสามารถควบคุมได้แล้ว รายงานระบุด้วยว่าไฟป่าที่โหมไหม้ลุกลามเกิดขึ้นจากคลื่นความร้อนและปรากฏการณ์เอลนิโญที่ส่งผลกระทบต่อหลายประเทศในอเมริกาใต้
ด้านนักวิทยาศาสตร์เตือนว่าอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะเดียวกันกองทัพอาร์เจนตินาเร่งระดมกำลังต่อสู้กับไฟป่าที่เผาวอดพื้นที่กว่า 18,750 ไร่ในอุทยานแห่งชาติลอสอาแลร์เซส บริเวณเทือกเขาแอนดีส รัฐชูบุต ทางตอนใต้ของประเทศ หลังปะทุเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: