หญิงอังกฤษป่วยโรคหายาก ภาวะหูไวเกิน แค่เสียงใบไม้ปลิว เสียงหัวเราะก็สร้างความทรมาน ปวดศีรษะจนทนไม่ไหว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน หญิงชาวอังกฤษป่วยเป็นโรคที่หายากที่เรียกว่าภาวะหูไวเกินหรือ Hyperacusis กล่าวว่าเสียงในชีวิตประจำวัน เช่น เสียงหัวเราะของลูก ๆ เสียงของเพื่อน และแม้แต่เสียงเพลงทำให้เธอเจ็บปวดจนเสมือนทุพพลภาพ

โดยภาวะหูไวเกิน เป็นความผิดปกติทางการได้ยินที่สร้างความทุพพลภาพ โดยผู้ป่วยจะไวเสียงที่ความถี่หนึ่ง ๆ เพิ่มขึ้นคือสามารถทนต่อเสียงที่ความถี่นั้น ๆ ได้น้อยลง แต่ละประเภทมีความรุนแรงแตกต่างกันอาจมีปัญหาทนต่อเสียงในชีวิตประจำวันไม่ได้

ตามรายงานของบีบีซี ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา คาเรน คุก จากเซาท์พอร์ท เมอร์ซีย์ไซด์ ทำงานเป็นลูกเรือและใช้ชีวิตตามปกติกับสามีและลูกชายสองคน แต่แล้วเธอก็เริ่มประสบกับบางสิ่งที่แปลกและเจ็บปวดในปี 2022

เมื่อจู่ๆ ภาวะหูไวเกินของเธอเกิดขึ้น ทันใดนั้น เสียงก็กลายเป็นเรื่องทรมานสำหรับเธอ เสียงของคนที่รัก, คุยกับเพื่อนฝูง, ลมพัดใบไม้, รถที่ขับผ่านบ้านของเธอ หรือฟังเพลงโปรดของเธอทำให้เธอปวดหัวจนทนไม่ไหวจนเริ่มแยกตัวเองออกมา

“มันเหมือนกับว่ามีใครบางคนกรอกลาวาที่เดือดพล่านใส่หูของฉัน และหัวของฉันก็เหมือนถูกไฟไหม้ ฉันรู้สึกเจ็บไปทั่วศีรษะโดยเฉพาะที่หลังตา มันเหมือนกับเป็นอาการไมเกรน เหมือนคุณต้องการผ่าศีรษะออกมาเพื่อคลายความกดดัน” คาเรนกล่าว

นับตั้งแต่แรกเริ่มที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะหูไวเกิน คาเรนพยายามรักษา แต่อาการกลับแย่ลงเรื่อย ๆ ตอนนี้เธอใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน เพราะเธอไม่สามารถรับมือกับเสียงรบกวนจากโลกภายนอกได้ทั้งหมด และแม้แต่ตอนที่เธออยู่บ้านคนเดียว เธอก็สวมที่อุดหูและอุปกรณ์ป้องกันเสียงรบกวนเพื่อป้องกันตัวเอง

ในวันคริสต์มาส ในขณะที่ลูกชายของเธออายุ 7 และ 11 ปี กำลังเปิดของขวัญอย่างตื่นเต้น เธออยู่ในห้องถัดไปเพื่อดูพวกเขาจากด้านหลังหน้าต่าง เพราะเธอทนฟังเสียงที่ดังและเสียงหัวเราะของพวกเขาไม่ได้

“แม้สิ่งที่สวยงามอย่างเสียงหัวเราะของลู ๆ ของฉัน การได้ยินเสียงของพวกเขา ก็เหมือนกับการทรมานสำหรับฉัน ฉันจะนั่งมองพวกเขาผ่านหน้าต่างเพื่อเปิดของขวัญคริสต์มาส เพราะมันดังเกินไปสำหรับฉันที่จะอยู่ในห้อง และพวกเขาก็ขึ้นมาที่หน้าต่างแล้วแสดงให้พวกเขาดู”

คาเรนเคยทำงานเป็นลูกเรือสายการบินแห่งหนึ่งมานานกว่า 25 ปี ซึ่งเป็นอาชีพที่เธอบอกว่า “มันไม่ใช่แค่งาน แต่เป็นส่วนหนึ่งของตัวตน และบ่งบอกถึงความอิสระของฉัน” ปัจจุบันชีวิตของเธอเปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้ และสิ่งเดียวที่ทำให้เธอดำเนินต่อไปได้ก็คือลูก ๆ ของเธอ เธอมุ่งมั่นที่จะต่อสู้และหวังว่าจะพบวิธีรักษาอาการร้ายกาจนี้ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีอะไรได้ผล

ขอบคุณที่มาจา Odditycentral

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน