วันที่ 19 มี.ค.บีบีซีรายงานว่า นายเจ๊ก ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐประจำทำเนียบขาวแจ้งนายมาร์วัน อิสซา รองผู้บัญชาการทหารระดับอาวุโสฮามาสเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล นับเป็นผู้นำฮามาสที่เสียชีวิตในตำแหน่งอาวุโสที่สุดตั้งแต่ฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อ 7 ต.ค.ปี 2566 แต่ฮามาสยังไม่ยืนยัน
สื่ออิสราเอลหลายสำนักรายงานว่า นายอิสซาถูกสังหารในการโจมตีอุโมงค์ที่อยู่ใต้ค่ายผู้ลี้ภัยนูเซรัต ทางตอนกลางของกาซ่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
รองผู้บัญชาการกองพลน้อยอิซซาดีน อัลกัสซัม ปีกทางการทหารของฮามาส เป็นหนึ่งในผู้ที่อิสราเอลต้องการตัวมากที่สุด สหภาพยุโรปหรืออียู ซึ่งขึ้นบัญชีรองผู้บัญชาการทางทหารของฮามาสคนนี้ในบัญชีก่อการร้าย ระบุว่า นายอิสซามีส่วนโดยตรงในการโจมตีอิสราเอลเมื่อ 7 ต.ค. คร่าราว 1,200 ชีวิตในฝั่งอิสราเอล
ก่อนหน้านี้อิสราเอลสังหารผู้นำระดับอาวุโสของฮามาสรวมถึงนายซาเลห์ อัล-อรูรีเสียชีวิตในเหตุระเบิดในเมืองดาฮิเย ชานเมืองทางใต้ของกรุงเบรุต
นายซัลลิแวนเชื่อว่า ผู้นำฮามาสคนอื่นๆกำลังหลบซ่อนอยู่ โดยมีแนวโน้มว่าซ่อนอยู่ในเครือข่ายอุโมงค์ฮามาสในกาซ่าที่อยู่ลึกลงไปอย่างมาก และให้คำมั่นว่าสหรัฐจะช่วยเหลืออิสราเอลในการตามล่าผู้นำฮามาสระดับสูงต่อไป พร้อมเสริมว่า ความยุติธรรมจะเอาคืนพวกผู้นำฮามาส
อย่างไรก็ตาม นายซัลลิแวนย้ำว่า นายโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกาแสดงสัญญาณเตือนมากขึ้นเกี่ยวกับจำนวนพลเรือนในกาซ่าที่เสียชีวิตสูงขึ้นในระหว่างการหารือทางโทรศัพท์กับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล
นายซัลลิแวนระบุว่า การบุกเมืองราฟาห์ ทางใต้ของกาซ่าจะทำให้พลเรือนบริสุทธิ์เสียชีวิตมากขึ้น ทำให้วิกฤตมนุษยธรรมเลวร้ายลงอีก ภาวะอนาธิปไตยในกาซ่าร้าวลึก และยิ่งทำให้นานาชาติโดดเดี่ยวอิสราเอลมากขึ้น
ส่วนทีมประสานงานอาวุโสของอิสราเอลที่ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยข่าวกรองและมนุษยธรรมได้เดินทางไปสหรัฐตามที่นายไบเดนร้องขอ เพื่อหารือถึงความกังวลของสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับการบุกราฟาห์ก่อนที่อิสราเอลจะปฏิบัติการโจมตี
