วันที่ 2 เม.ย.บีบีซีรายงานว่า นักท่องเที่ยวพบห่อของหุ้มพลาสติกที่เชื่อว่าบรรจุยาเสพติดโคเคน 5 ห่อ น้ำหนักรวม 5 กิโลกรัมถูกคลื่นซัดเกยชายหาดหลายแห่งในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ต่อมาตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ยึดสารเสพติดทั้งหมดและแจ้งประชาชนว่า การสอบสวนในประเด็นยาเสพติดยังดำเนินต่อไป หากพบเบาะแสน่าสงสัยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
การพบห่อยาเสพติดโคเคนครั้งล่าสุดนี้ พบที่ย่านเฟรชวอเตอร์แอนด์เคิร์ลเคิร์ล ทางเหนือของชายฝั่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ เมื่อวันจันทร์ที่ 1 เม.ย.เวลาท้องถิ่น
ห่อโคเคนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการขนส่งโคเคนครั้งใหญ่ ซึ่งเคยพบเกยหาดครั้งแรกตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ก่อนวันคริสต์มาส 3 วัน ทำให้นับจนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยึดโคเคนจากชายหาดในรัฐแห่งนี้รวมกันกว่า 250 กิโลกรัมแล้ว
จากข้อมูลองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือโออีซีดี ระบุว่า ออสเตรเลียมีอัตราผู้ใช้โคเคนต่อหัวประชากรสูงที่สุดในโลก ตามด้วยอังกฤษ
นับตั้งแต่นั้น เจ้าหน้าที่พบหีบห่อยาเสพติดที่แม้มีขนาดเล็ก แต่บางห่อมีน้ำหนักสูงสุดถึง 39 กิโลกรัมในชายหาดมากกว่า 10 แห่งตามความยาวชายฝั่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ราว 500 กิโลเมตร
เมื่อวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชายฝั่งถ่ายคลิปตัวเอง ขณะกำลังดึงห่อสารเสพติดขึ้นจากคลื่นที่ชายหาดบอนได ส่วนอีกห่อถูกพบบนชายหาดวิลลาในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
ขณะนี้ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เหตุใดห่อยาเสพติดถึงลงเอยอยู่ในมหาสมุทรได้
ตำรวจระบุผ่านสถานีโทรทัศน์เอบีซีออสเตรเลีย เชื่อว่า ยาเสพติดมาจากทวีปอเมริกาใต้และมีแนวโน้มขนส่งมาในเรือสินค้าจนมาถึงออสเตรเลีย
“บางครั้งเราเห็นว่า ห่อยาถูกขว้างลงทะเลอย่างจงใจเพื่อรอให้เรืออีกลำมาหยิบห่อยาไป” นายเจสัน ไวน์สตีน ผู้อำนวยการหน่วยบัญชาการอาชญากรรมรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าว และว่า บางห่อมีเพรียงเกาะหลายตัว ทำให้นักสืบวิเคราะห์ได้ว่า ห่อยาอยู่ในน้ำไม่เกิน 6 สัปดาห์ก่อนถูกพบ
สถิติทางการออสเตรเลีย ระบุว่า ชาวออสเตรเลียบริโภคเมทแอมเฟตามีน โคเคน เฮโรอีนและยาอีในปี 2565 (ม.ค.-ส.ค.65) รวม 16.5 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า