ชาวเน็ตจีนเดือด วัดไทยเขียนป้าย นักท่องเที่ยวจีนโปรดรักษาความสะอาด ลั่นแบบนี้เป็นการเลือกปฏิบัติ เจาะจงแต่คนจีน ฟาดไทยก็สกปรกเหมือนกัน
โลกออนไลน์ประเทศจีนกำลังเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ขึ้น หลังมีชาวเน็ตคนหนึ่งโพสต์รูปภาพป้ายประกาศเตือนของห้องน้ำในวัดแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยระบุว่า เธอเดินทางมาประเทศไทยเมื่อไม่กี่วันก่อน
ป้ายเตือนดังกล่าว เขียนเป็นภาษาไทย อังกฤษ และจีนตัวย่อ ซึ่งเขียนว่ากรุณารักษาความสะอาด แต่เธอแปลกใจที่เห็นข้อความภาษาจีนตัวย่อเขียนอยู่ในห้องน้ำของวัด โดยระบุว่า “นักท่องเที่ยวจีน โปรดรักษาความสะอาด”
เธอโกรธมากจนตะโกนออกมา “จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกแย่” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเปิดเผย ชาวเน็ตชาวจีนก็ดราม่าสนั่น เพราะข้อความภาษาอังกฤษเป็นเพียง ‘โปรดรักษาความสะอาด’ แต่ข้อความภาษาจีนเท่านั้นที่มุ่งเป้าไปที่คนจีน เพราะเจาะจงเขียนว่านักท่องเที่ยวจีน เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่า แบบนี้เป็นการเลือกปฏิบัติ
“เราขอให้ชาวจีนไตร่ตรองในการเที่ยวไทยอีกครั้ง” , “ภาษาอังกฤษเป็นเพียง โปรดรักษาความสะอาด และมีเพียงภาษาจีนเท่านั้นสำหรับชาวจีน” , “ประเทศอย่างไทยกับปัจจัยด้านความปลอดภัยที่ต่ำมาก ไม่รู้สึกอายที่จะพูดคำนี้บ้างเหรอ” , “ประเทศไทยเองก็ไม่ใช่สถานที่สะอาด”
“บางทีประเทศไทยอาจไม่กล้าพูดต่อชาวยุโรปและอเมริกา จีนก็ถูกรังแกมากที่สุดในโลก”, “คนไทย อิจฉาการพัฒนาที่ดีของจีนมาก โดยเฉพาะ คนจีนอพยพมาเมืองไทยทุกคนอิจฉาริษยา” และ “อย่าปล่อยให้คนจีนไปไทย”
อย่างไรก็ตาม ยังมีคนจีนจำนวนมากที่เห็นด้วยกับข้อความของป้ายเตือนที่เป็นเพียงคำเตือนขอความร่วมมือ “ในฐานะคนจีน ฉันเกลียดนักท่องเที่ยวชาวจีนบางคนที่ไม่กดชักโครก ถ่มน้ำลายทุกที่ ส่งเสียงดัง และทิ้งขยะเกลื่อน” , “คนที่รวยก่อนจะชอบเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ทำพฤติกรรมไม่ดี สร้างความเดือดร้อนให้คนรุ่นต่อไปอย่างไม่มีสิ้นสุด”
“บางครั้ง มันเป็นเรื่องจริง ฉันอยู่ต่างประเทศ และทุกครั้งที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์จีน ฉันก็พยายามที่จะปฏิเสธมัน ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงเห็นด้วยตาตัวเองว่ารถไฟใต้ดินของจีนไม่ได้ลงก่อนจะขึ้นรถ และไม่มีคิวมากมาย คนถ่มน้ำลาย พูดเสียงดัง สูบบุหรี่ในบ้าน ฯลฯ ฉันก็ไม่มีทางปฏิเสธได้”
ตามรายงาน กระทรวงการต่างประเทศของจีนออกประกาศเมื่อปี 2556 โดยเตือนสมาชิกในครอบครัวให้ “ประพฤติตนอย่างเหมาะสม ใส่ใจภาพลักษณ์ เดินทางอย่างมีอารยธรรม เข้ากับคนในท้องถิ่นได้ดี และแสดงภาพลักษณ์ที่ดีของนักท่องเที่ยวชาวจีน”
ขอบคุณที่มาจาก Enews
