น้ำทะลักเขื่อนเคนยา ซัดชุมชนดับแล้วครึ่งร้อย-เซ่นสภาพอากาศสุดขั้ว
น้ำทะลักเขื่อนเคนยา – วันที่ 29 เม.ย. รอยเตอร์รายงานว่า เกิดเหตุปริมาณน้ำล้นเขื่อนที่ภาคกลางของประเทศเคนยา ชาติในทางภาคตะวันออกของทวีปแอฟริกา ส่งผลให้มวลน้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 42 ราย ในจำนวนนี้ 17 รายเป็นเด็ก
REUTERS
ภาพจากเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์เดิม) เผยให้เห็นสภาพพื้นที่บางส่วนที่ถูกมวลน้ำจากเขื่อนดังกล่าวไหลเข้าท่วมชุมชน เต็มไปด้วยซากปรักหักพังของสิ่งปลูกสร้างและต้นไม้ที่ล้มระเนระนาดที่เขตไม มาฮิอู จังหวัดนาคูรู เคาน์ตี้ โดยตำรวจ คาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก
สถานการณ์ล่าสุดส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมฉับพลันซึ่งเกิดขึ้นหลังเคนยาเผชิญกับฝนตกหนักมาตั้งแต่เดือนมี.ค. เพิ่มเป็น 142 รายแล้ว โดยนักวิทยาศาสตร์ คาดว่า เป็นอิทธิพลจากสภาพอากาศแบบสุดขั้ว (Extreme Weather)
REUTERS
ขณะที่ตัวเลขจากหน่วยงานรัฐ ระบุว่า เหตุอุทกภัยในเคนยาทำให้มีผู้เสียชีวิตล้ว 103 ราย และไม่มีบ้านอยู่อาศัยอีก 185,000 คน (ไม่รวมเหตุล่าสุด)
รายงานระบุว่า อิทธิพลของฝนตกหนักกำลังทำให้หลายชาติในพื้นที่ภาคตะวันออกของทวีปแอฟริกานอกเหนือไปจากเคนยาเผชิญกับน้ำท่วมฉับพลันซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายแสนคน รวมถึงคร่าชีวิตผู้เคราะห์ร้ายไปแล้วอีกหลายสิบราย อาทิ แทนซาเนียและบุรุนดี
REUTERS
เหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นต่อหลายชาติในพื้นที่ภาคตะวันออกของทวีปแอฟริกายังสร้างความเสียหายให้สิ่งปลูกสร้างเป็นวงกว้าง เช่น ถนนทางหลวงและสะพาน โดยอุโมงค์ใต้ดินที่ลอดใต้ท่าอากาศยานในกรุงไนโรบีของเคนยาไม่สามารถใช้การได้เพราะถูกน้ำท่วมจนมิด
โฆษกรัฐบาลเคนยา เปิดเผยด้วยว่า บรรดาเขื่อนหลายแห่งที่กักเก็บน้ำไว้ผลิตกระแสไฟฟ้าขณะนี้กำลังมีปริมาณน้ำเกินความสามารถที่จะรองรับได้ ซึ่งจะนำไปสู่เหตุน้ำล้นเขื่อนเป็นอันตรายต่อประชาชน
REUTERS
ด้านนักวิทยาศาสตร์ ระบุว่า บรรดาชาติภาคตะวันออกของทวีปแอฟริกากำลังเผชิญกับสภาวะอากาศสุดขั้วที่มาสาเหตุหลักมาจากปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หรือโลกร้อน สะท้อนจากปริมาณน้ำฝนทุบสถิติช่วงฤดูมรสุมเมื่อปี 2566
ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของเคนยา กล่าวว่า อยู่ระหว่างพิจารณามาตรการที่จำเป็นเนื่องจากเด็กนักเรียนกำลังจะเปิดเทอมในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอาจเป็นอันตรายต่อนักเรียนและครูผู้สอน
