เมื่อวันที่ 11 มี.ค. เว็บไซต์ข่าว เดลี่เมล์ รายงานว่านางสาวเคลี่ มัทเทิร์ต อายุ 20 ปี ซึ่งควักลูกตามทั้งสองข้างของตัวเองออกในขณะที่เมายาเมื่อเดือนก่อน เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ก.พ. นอกโบสถ์แห่งหนึ่ง ในรัฐเซาท์แคโรไลน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ตอนนั้นเธอเชื่อว่าจะเป็นการเสียสละเพื่อพระเจ้า ซึ่งตอนนี้เธอเข้ารับการบำบัดเลิกยาแล้วต้องปรับตัวกับชีวิตที่มองไม่เห็น เธอกล่าวว่า “ชีวิตตอนนี้ช่างสวยงาม มันสวยกว่าติดที่ฉันติดยา โลกมันเลวร้ายที่จะอาศัยอยู่
นางสาวเคลี่ใช้เวลารักษาตัวที่โรงพยาบาลและสถาบันจิตเวชนานถึงวันที่ 1 มี.ค. เธอกล่าวอีกว่า “บางทีฉันก็ลืมว่าฉันตาบอด เพราะฉันรู้ว่ามีอะไรรอบตัว ไม่ถึงขั้นละเอียดมากแต่ฉันรู้ว่าบ้านแม่ของฉันเป็นอย่างไร” เธอพยายามเรียนรู้ที่จะใช้เซนส์ใหม่ในการใช้ชีวิต เธอกล่าวต่ออีกว่า “ฉันก็เห็นแต่ไม่ใช่ด้วยตา มันยากที่จะอธิบายนะ ฉันเองยังไม่เข้าใจมันเลย เหมือนฉันได้เป็นตัวเองอีกครั้งเมื่อ10ปีก่อน ขอยอมตาบอดดีกว่าเป็นคนที่ติดยา”
ในตอนที่เธอเมายาเมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอคิดว่าทุกคนที่ตายไปแล้วติดอยู่ในหลุมศพตัวเอง และพวกเขาต้องการให้เธอเสียสละดวงตาเพื่อปลดปล่อยวิญญาณคืนสู่พระเจ้า ตอนนั้นเธอรู้สึกว่าเวลาเดินอย่างรวดเร็ว เธอกำลังหาใครสักคนมาช่วยแต่มันกระชั้นชิดมากๆทำให้เธอตัดสินใจควักลูกตาออกด้วยตัวเอง เมื่อมีสาธุคุณเดินผ่านมา เธอขอให้เขาสวนมนต์เพื่อให้เธอเจอแสงสว่าง ทางตำรวจต้องใช้กองกำลังหลายนายเพื่อคุมตัวเธอไปส่งโรงพยาบาล
นางเคลี่เล่าว่าดนตรีเป็นส่วนสำคัญในการรักษาตัว เธอเล่นกีต้าร์และพยายาฝึกเพลงใหม่ๆ ในขณะเดียวกันเธอก็เลิกยาและใช้เวลาพูดในที่สาธารณะเป็นตัวแทนคนตาบอด โดยแม่ของเธอนั้นก็ระดมทุนเพื่อหาสุนัขนำทางให้เธอ
