เมื่อ 13 มี.ค. เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าการสืบสวนโศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารสายการบิน ยูเอส-บังกลา เที่ยวบิน BS211 ไถลออกนอกลู่วิ่งและระเบิดรุนแรงที่ท่าอากาศยานกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล คร่าชีวิตผู้โดยสาร 50 ราย จากทั้งหมด 71 คน ว่ากล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินเผยถึงปัญหาการสื่อสารที่สับสนอลหม่านระหว่างนักบินกับเจ้าหน้าที่ของหอวิทยุการบินในช่วงที่เครื่องกำลังจะลงจอด กลายเป็นโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกครั้งร้ายแรงที่สุดของเนปาล นับจากปี 2535 ที่เครื่องการบินไทย TG 311 ตก มีผู้เสียชีวิต 113 ราย
จากบันทึกดังกล่าว เจ้าหน้าที่หอวิทยุการบินอนุญาตให้เครื่องลงได้จากทิศใต้ เนื่องจากสนามบินดังกล่าวมีลู่วิ่งเพียงแห่งเดียว จึงต้องเลือกระหว่างทิศเหนือหรือใต้ ไม่กี่วินาทีต่อมา เจ้าหน้าที่หอวิทยุกลับระบุว่า ”คุณไปที่รันเวย์ 20 นะ” ซึ่งหมายถึงทิศเหนือของรันเวย์ ทำให้นักบินเริ่มสับสน
จังหวะแรกนักบินตอบไปว่า “ได้งั้นเปลี่ยนไปลง รันเวย์ 20” แต่สักพักนักบินก็เปลี่ยนมาพูดว่า “เอ้ย ต้อง รันเวย์ 02 สิ” ซึ่งหมายถึงรันเวย์ที่อยู่ด้านใต้ กระทั่งในช่วงท้ายของการสนทนา จังหวะที่เครื่องบินลดต่ำลง นักบินพูดว่า “ตอนนี้เราเคลียร์ที่จะลงจอดได้รึยัง” เจ้าหน้าที่หอควบคุมการบินกลับขึ้นเสียงสูง พูดด้วยน้ำเสียงเครียดว่า “ผมบอกอีกครั้งนะ เลี้ยวกลับ!”
ขณะที่บรรดาผู้โดยสารที่รอดชีวิตระบุตรงกันว่า ก่อนเครื่องจะลงนั้นกัปตันเลี้ยวเครื่องอย่างกะทันหัน ก่อนเครื่องกระแทกและไหลออกนอกลู่วิ่งจนระเบิด