เอพีรายงานว่า เมื่อ 21 มี.ค. มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารระดับซีอีโอของเฟซบุ๊กโพสต์ข้อความในเพจส่วนตัวแล้วหลังจากนิ่งเงียบอยู่ 4 วัน นับจากเกิดกรณีอื้ออึงของเฟซบุ๊ก ถูกกล่าวว่าปล่อยให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการ 50 ล้านรายชื่อถูกรุกล้ำ ตกไปอยู่ในมือบุคคลที่สามซึ่งเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งที่ผ่านมา

ซักเคอร์เบิร์กโพสต์ว่ากรณีนี้มีความผิดพลาดเกิดขึ้น และจากนี้จะต้องหาทางแก้ไขไปตามขั้นตอนตามที่เฟซบุ๊กมีความรับผิดชอบที่ต้องปกป้องข้อมูลผู้ใช้ และป้องกันไม่ให้สถานการณ์เช่นนี้เกิดอีก

“ถ้าเราทำไม่ได้ ก็เท่ากับเราไม่คู่ควรที่จะให้บริการพวกท่าน” ซักเคอร์เบิร์กระบุ

ก่อนหน้านี้ ซักเคอร์เบิร์กและเชอรีล แซนด์เบิร์ก ผู้บริหารเบอร์สองของเฟซบุ๊กต่างเงียบกริบ นับจากมีข่าวครึกโครมที่บริษัทเคมบริดจ์ อนาลีติก ซึ่งใกล้ชิดสนิทสนมกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกแฉว่านำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เฟซบุ๊ก 50 ล้านรายชื่อไปใช้ในทางไม่เหมาะสมเพื่อให้มีอิทธิพลต่อผลการเลือกตั้ง

FILE -. (AP Photo/Jeff Chiu, File)

ซักเคอร์เบิร์กระบุด้วยว่า ยินดีที่รัฐสภาคองเกรสเรียกตัวไปสอบถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากกรรมธิการวุฒิสภาแถลงว่าต้องการให้ซีอีโอเฟซบุ๊กเข้าให้ข้อมูล ส่วนคณะกรรมการการค้าสหรัฐ หรือเอฟทีซี ตั้งชุดสอบสวน ขณะที่ประธานรัฐสภาอียูกล่าวจะดำเนินการตรวจสอบด้วย

ด้านอังกฤษ อลิซาเบธ เด็นแฮม ประธานคณะสืบสวนด้านการรั่วไหลของข้อมูล อยู่ระหว่างขอหมายศาลเพื่อบุกค้นสำนักงานของเคมบริดจ์ อนาลีติกา ส่วนรัฐสภาอังกฤษเรียกร้องให้ผู้บริหารเฟซบุ๊กชี้แจงรายละเอียดกระบวนการบริหารข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้โดยเร็วที่สุด

ในเวลาใกล้เคียงกัน นายอเล็กซานเดอร์ โคแกน นักวิจัยด้านจิตวิทยา มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ให้สัมภาษณ์บีบีซีหลังตกเป็นข่าวนำข้อมูลจากเคมบริดจ์ อนาลีติกไปใช้วิจัยเพื่อทำข้อมูลให้ทีมหาเสียงของนายทรัมป์ว่า ทั้งเฟซบุ๊ก และบริษัทเคมบริดจ์ อนาลีติก ต่างมาโยนให้ตนเป็นแพะรับบาป ว่าไปรุกล้ำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เฟซบุ๊ก ทั้งที่ตนทำข้อมูลธรรมดาเหมือนบริษัทโฆษณาทั่วไป ไม่รู้เลยว่ามีวิธีการที่เอาไปใช้ให้นายทรัมป์ได้อย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน