เมื่อ 24 มี.ค. เอเอฟพีรายงานกระแสความไม่พอใจรุนแรงต่อเฟซบุ๊กกรณีทำข้อมูลผู้ใช้รั่วไหลกว่า 50 ล้านคน ว่าล่าสุด นายอีลอน มัสก์ นักธุรกิจชาวอเมริกันผู้ก่อตั้งค่ายยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า เทสล่า และบริษัทวิจัยเทคโนโลยีสำรวจอวกาศ สเปซเอ็กซ์ ลบเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของทั้งสองบริษัทออกจากเฟซบุ๊กแล้ว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสรณรงค์ลบเฟซบุ๊ก #deletefacebook เนื่องจากความไม่พอใจที่บริษัท เคมบริดจ์ อนาลิติกา ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ลักลอบเก็บและนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้แทรกแซงการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐอเมริกา ด้วยการสร้างความได้เปรียบให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ จนชนะการเลือกตั้ง
นายมุสก์ เขียนข้อความแซวในเพจของผู้พัฒนาลำโพงแบรนด์ Sonos หลังค่ายนี้ประกาศจะงดโฆษณาบนเฟซบุ๊ก 1 สัปดาห์ แต่โดนผู้แสดงความคิดเห็นท้าทายให้นายมัสก์ลบเพจของบริษัทตัวเองอย่างสเปสเอ็กซ์ ทำให้นายมัสก์ตอบว่า “ผมเพิ่งรู้ว่าบริษัทผมมีเฟซบุ๊กด้วย” และว่า “เดี๋ยวลบละ” จากนั้นเพจดังกล่าวก็โดนลบไปในไม่กี่นาที ต่อมามีผู้แสดงความคิดเห็นว่า ค่ายเทสล่าของนายมัสก์ก็มีเฟซบุ๊ก ทำให้นายมัสก์ตอบว่า “ไม่สวยเลยว่ะ” แล้วเพจดังกล่าวก็โดนลบไปทันที โดยทั้งสองเพจมีผู้ติดตามรวมกันกว่า 2.5 ล้านคน
ด้านมูลค่าการตลาดของเฟซบุ๊กหลังเผชิญกับวิกฤตความน่าเชื่อถือครั้งรุนแรงที่สุดเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ส่งผลให้มีมูลค่าลดลงแล้ว 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.8 ล้านล้านบาท แม้นายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กจะออกมาขอโทษและขอโอกาสแก้ไขปัญหาก็ตาม
