เมื่อวันที่ 24 มี.ค. เดลี่เมล์รายงานว่า ตำรวจควบคุมตัวลูกเรือที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าข่มขืนแอร์โฮสเตสหลังจากร่วมสังสรรค์ดื่มกันหลังเครื่องบินของสายการบินบริติชแอร์เวย์หยุดพักระหว่างทาง (Stopover) ที่ประเทศสิงคโปร์

รายงานระบุว่า แอร์โฮสเตสที่ถูกขืนใจเป็นแอร์โฮสเตสอาวุโส หลังเกิดเหตุ มีการเปลี่ยนโรงแรมใหม่ให้แอร์โฮสเตสผู้เสียหาย โดยแยกกับโรงแรมที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินพักระหว่างเดินทางเป็นประจำ

เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ลูกเรือผู้ต้องสงสัยและแอร์โฮสเตสผู้เสียหายไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามตารางการบินได้ซึ่งจะเดินทางออกจากสิงคโปร์มุ่งหน้าไปนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ต่อไป

แหล่งข่าวสายการบินบริติชแอร์เวย์ระบุว่า ลูกเรือผู้ต้องสงสัยขณะนี้ยังอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของตำรวจ ทางสายการบินได้ส่งผู้จัดการและหาพนักงานบนเครื่องบินคนใหม่มาแทนเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

แหล่งข่าวสนามบินบริติชแอร์เวย์รายงานว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ภายหลังการเดินทาง 12 ชั่วโมง จากสนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน มุ่งหน้ามายังสิงคโปร์

โฆษกสายการบินบริติชแอร์เวย์ระบุว่า ทางสายการบินกำลังทำงานร่วมกับตำรวจในการสืบสวนสอบสวนพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ซึ่งระหว่างนี้จะไม่ขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม

สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นเชื่อว่ามาจากการจัดสรรพนักงานบนเครื่องบินแบบผสม (Mixed fleet crew) ซึ่งจะมีสจ๊วตและแอร์โฮสเตสที่มีอายุน้อย โดยเมื่อปีที่แล้ว สายการบินบริติชแอร์เวย์ระบุว่า การดื่มเมาสุราและมีพฤติกรรมไม่ดีจะกระทบต่อชื่อเสียงของสายการบินและความสามารถในการให้บริการชั้นหนึ่งแก่ผู้โดยสารด้วย

ทั้งนี้ โทษสูงสุดสำหรับความผิดฐานข่มขืนในประเทศสิงคโปร์คือจำคุก 10 ปี และเฆี่ยนอีก 12 ครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน