วันที่ 26 มี.ค. เว็บไซต์ เมโทร เผยเรื่องราวชีวิตรันทดของหนุ่มวัยรุ่นชาวปากีสถาน ที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับก้อนเนื้องอกตรงสะโพกและต้นขาขนาดใหญ่ จนต้องอยู่ในสภาพติดเตียงอย่างถาวร

นายมูฮัมหมัด เอสซา พัลลารี อายุ 18 จากเมืองนูเรียบัด นครการาจี ประเทศปากีสถาน ต้องเผชิญกับโรคดังกล่าวที่มีชื่อทางการแพทย์เรียกว่า plexiform Neurofibromatosis ซึ่งเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาเนื้อเยื่อ

สำหรับก้อนเนื้องอกของนายพัลลารี พบเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยเริ่มจากขนาดเท่าลูกเทนนิสจนโตมีขนาดเท่ากับตัวเด็กวัย 3 ขวบ โดยมีน้ำหนักเกือบ 20 ก.ก. และความหนาราว 50 ซม.

นายอัลเลาะห์ ดีโน อายุ 52 ปี ผู้เป็นพ่อ เผยว่า ไม่สามารถนำลูกชายไปโรงพยาบาลดีๆ ได้เนื่องจากไม่มีเงิน และเป็นห่วงชีวิตของลูกชายในวันข้างหน้า แรกๆ ก็ไม่ได้สนจนกระทั่งมันโต เมื่อปีก่อน มีขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว ทำให้ลูกชายนอนติดเตียงถาวรและต้องมีคนช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำ

ส่วนอาชีพของนายดีโนทำงานเป็นคนขับรถแทรกเตอร์ ได้รับค่าแรงวันละ 177 บาท และยังมีลูกที่ต้องเลี้ยงดูรวมทั้งนาลพัลลารีรวม 7 คน

ก่อนหน้านี้ นายซุลฟีการ์ โซลังกี นักเคลื่อนไหวด้านสังคม โพสต์เรื่องราวของนายพัลลารีลงในเฟซบุ๊กว่า ครอบครัวยากจนมากจนนายพัลลารีไม่มีเงินจ่ายค่าเดินทางและพักอาศัยในนครการาจี จึงทำให้เนื้องอกเป็นก้อนโตจนไม่เชื่อ

“ผมมาทราบเรื่องของเขาเมื่อ 2 เดือนก่อน ตอนนั้นเนื้องอกก็มีเฉพาะตรงต้นขา แต่ว่าตอนนี้มีเนื้องอกขึ้นมาเต็มแผ่นหลังช่วงล่างฝั่งขวาแล้ว”

ล่าสุด รัฐบาลท้องถิ่นยื่นข้อเสนอรักษาเนื้องอกโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยนำตัวนายพัลลารีขึ้นรถฉุกเฉินไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ดร.รูธ เฟา ในนครการาจี เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

“ผมขอพรพระเจ้าและหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่น หวังว่าจะผ่าตัดก้อนเนื้องอกอย่างสำสำเร็จ เพื่อให้ลูกชายของผมสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติเสียที” นายดีโนกล่าว

ด้านดร.เนาชาด เชค ศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัด เผยว่า แพทย์ผ่าตัดประกอบด้วยศัลยแพทย์ระบบประสาทและศัลยแพทย์ตกแต่ง โดยใช้เวลา 2-3 วัน กำหนดรูปแบบและวันผ่าตัดก่อนการผ่าตัดจริง สำหรับเคสดังกล่าวได้รับแจ้งว่าจะไม่มีก้อนเนื้องอกโตขึ้นอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน