เมื่อวันที่ 27 มี.ค.บีบีซีรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์จากออสเตรเลียต้นพบโลงหินที่มีมัมมี่อายุ 2,500 ปีอยู่ด้านใน จากเดิมที่คิดเป็นเป็นโลงว่างเปล่า จนไม่มีใครแตะต้อง อีกทั้งถูกเก็บอยู่พิพิธภัณฑ์ซิดนีย์เป็นเวลามากกว่า 150 ปี

นักวิทยาศาสตร์ในออสเตรเลียถึงกับตกตะลึงหลังจากเปิดโลงศพหินบรรจุมัมมี่ ในพิพิธภัณฑ์ หลังพบว่ามีซากโครงกระดูกมนุษย์ และเท้าของมนุษย์อยู่ในโลงดังกล่าว แต่ซากมัมมี่มีสภาพเสียหาย อาจเป็นไปได้ว่าเป็นฝีมือของนักล่าสมบัติ

สภาพภายในโรงหิน /NICHOLSON MUSEUM/UNIVERSITY OF SYDNEY

ด้านดร.เจมี เฟร์เซอร์ นักโบราณคดีจากพิพิธภัณฑ์นิโคลสัน ของมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดที่จะเปิดดูโลง เพราะนึกว่าไม่มีอะไร การค้นพบครั้งนี้ทำเพียงแค่ประกาศในสาธารณะรับรู้เท่านั้น ยังต้องศึกษาต่อไป

นักวิจัยที่เกี่ยวข้องพยายามช่วยกันหาเจ้าของร่างมัมมี่ที่กระจุยกระจายนี้ ซึ่งมีเพียงแค่ร้อยละ 10 ของทั้งร่างมัมมี่ที่ยังดูดีอยู่เท่านั้น

ภาพหลังจากการใช้เครื่องซีทีสแกน / MACQUARIE MEDICAL IMAGING

ทางดร.เฟรเซอร์ระบุว่าหากอ่านตามตัวอักษรภาพอียิปต์โบราณแล้วโลงศพนี้สร้างสำหรับสตรีนามว่า แมร์-เนธ-อิต-เอส และคาดว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่ช่วง 600 ปีก่อนคริสตศักราช ซึ่งมีความเป็นไปได้สตรีคนนี้อาจจะเป็นนักบวช หรือผู้บูชาเทพเจ้า

MACQUARIE MEDICAL IMAGING

นอกจากนี้ทางนักวิทยาศาสตร์ยังใช้เทคโนโลยีซีทีสแกน เข้ามาช่วยค้นหาซึ่งศาสตราจารย์จอห์น เม็กนุสเซ่น นักรังสีวิทยาจากมหาวิทยาลัยแมคควารี่ ออสเตรเลียที่ใช้เครื่องซีทีสแกน พร้อมกับระบุว่าสิ่งที่พบไม่ใช่แค่เพียงเศษหิน เศษดินเท่านั้น แต่ยังเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญต่อด้านโบราณคดีอีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน