เมื่อวันที่ 29 มี.ค. เว็บไซต์ เทนกรีนิวส์ ของคาซัคสถานรายงานว่า ชาวบ้านที่พักอาศัยในอาคารสูงหลายสิบตึก 64 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อนบานกระจกหน้าต่างแตกเสียหายเป็นจำนวนมาก ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ระเบิดทำลายแผ่นน้ำแข็งในผืนแม่น้ำอีร์ติช เมืองเยเมย์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของคาซัคสถาน

“มีคนทำอะไรบางอย่างกับแม่น้ำ และเฮลิคอปเตอร์บินผ่านมา ฉันจึงเดินเข้าไปดูผ่านทางหน้าต่าง เวลานั้นก็เกิดระเบิดในแม่น้ำ แรงระเบิดสั่นสะเทือนจนกระจกหน้าต่างแตกกระจายคนละทิศคนละทาง ต้องหลบเศษกระจกที่จะกระเด็นมาบาดตัวฉัน” ผู้เห็นเหตุการณ์ที่พักอาศัยอยู่ใกล้ริมแม่น้ำอีร์ติชระบุ

รายงานระบุว่า การระเบิดทำลายน้ำแข็งในแม่น้ำใช้วัตถุวัตถุระเบิดในปริมาณมากถึง 600 กิโลกรัม ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ริมแม่น้ำต่างคาดไม่ถึงและไม่ทันระวังตัว เนื่องจากเกิดขึ้นรวดเร็วมาก

สำหรับการระเบิดแผ่นน้ำแข็งในแม่น้ำอีร์ติช สืบเนื่องจากวันที่ 28 มี.ค. โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำชุลบินสกายา ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำอีร์ติช ดำเนินการปล่อยน้ำออกมาอย่างไม่ถูกต้องตามแผน ส่งผลให้น้ำเกือบทั้งหมดไหลบ่ามาท่วมเกาะปอลคอฟนิชีย์ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามริมชายฝั่งเมืองเมเซย์

กระทั่งรุ่งเช้าของวันนี้ ระดับน้ำของเมืองเซเมย์สูงขึ้นถึง 525 ซม. ซึ่งเกินกว่าระดับวิกฤตคือ 450 ซม. ทางการท้องที่จึงตัดสินใจระเบิดแผ่นน้ำแข็งในแม่น้ำเพื่อให้มีกระแสน้ำไหลผ่านแม่น้ำลงไป








Advertisement

นายเยร์มัค ซาลีมอฟ นายกเทศมนตรีเมืองเซเมย์ กล่าวว่า ทางการใช้วัตถุระเบิด 600 ก.ก. เพื่อทดลองระเบิดแผ่นน้ำแข็งในแม่น้ำ ปรากฏว่าเมื่อแผ่นน้ำแข็งแตกออกแล้ว มีน้ำสะอาดไหลมา หลังจากนี้ทางการจะต้องทำเขื่อนกั้นน้ำ เพื่อให้น้ำไหลมารวมกันจนสูงเต็มที่และพัดพาเศษน้ำแข็งไหลออกไป

อย่างไรก็ตาม นายกเทศมนตรีเมืองเซเมย์ไม่ได้ระบุว่า ชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากกระจกหน้าต่างแตกนั้น จะได้รับค่าชดใช้ความเสียหายหรือไม่ ส่วนผู้พักอาศัยหลายรายได้รับบาดเจ็บถูกเศษกระจกบาดร่างกาย แต่ไม่มีรายงานได้รับบาดเจ็บสาหัส

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน