สื่อมวลชนจีนต่างรายงานผลการตัดสินคดีสะเทือนขวัญแห่งยุค ซึ่งสื่อตะวันตกเปรียบเทียบจำเลยว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่อง “แจ๊ก เดอะ ริปเปอร์ของจีน” จากการก่อเหตุข่มขืนฆ่าเหยื่อหญิงและเด็กสาวต่อเนื่อง 11 ราย ในช่วง 14 ปี ศาลพิพากษาให้ประหารชีวิต ส่วนจำเลยไม่ขออุทธรณ์
ซีจีทีเอ็นรายงานว่า คดีสะเทือนขวัญเกิดในพื้นที่เมืองไป่หยิน มณฑลกานซู และเมืองเป่าถู เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน นายเกา เฉินหยง ผู้ต้องหาได้ฉายาว่า แจ๊ก เดอะ ริปเปอร์ของจีน เพราะใช้วิธีสังหารโหด ปาดคอฆ่าเหยื่อ จากนั้นทำลายศพ รวมถึงการตัดอวัยวะออกมาจากร่าง
ตำรวจใช้เวลานานมาก กว่าที่จะคลี่คลายคดีได้ ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาเมื่อปี 2547 นั่นคือการตรวจสอบซ้ำดีเอ็นเอคนร้าย และตรวจหลักฐานทางชีววิทยา กระทั่งนำไปสู่การจับกุมนายเกาในเดือนสิงหาคม 2559 ยุติการหนีคดีที่ดำเนินมานานถึง 28 ปี
จำเลย เกา เฉิงหยง ปัจจุบันอายุ 54 ปี ถูกนำตัวขึ้นรับฟังคำพิพากษาเมื่อวันศุกร์ที่ 30 มี.ค. ว่ามีความผิดตามข้อกล่าวหา ทั้งฆาตกรรม ข่มขืน ปล้น และทำลายศพ ระหว่างช่วงปี 2531-2545 เหยื่อที่อายุน้อยสุดคือเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ศาลตัดสินประหารและให้จำเลยจ่ายชดเชยครอบครัวเหยื่อครอบครัวละ 4 หมื่นหยวน หรือราว 2 แสนบาท
Advertisement
ด้านเซี่ยงไฮ้อิสต์รายงานคำให้สัมภาษณ์ของนายหวัง หูหมิน รองผู้อำนวยการสำนักงานอัยการเมืองไป่หยิน ว่า แรงจูงใจของคนร้ายซับซ้อนมาก และเป้าหมายการลงมือก็แตกต่างหลากหลายออกไป แต่การกระทำทั้งหมดสอดคล้องกันว่า เป็นความผิดปกติทางจิต
“การหาผู้ต้องสงสัยในคดีอาญาของจีนไม่ใช่งานง่ายเลย แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าช่วยให้เราพบต้นไม้ในป่ากว้างใหญ่” นายหลิว เยี่ยน สมาชิกทีมสอบสวน กล่าว
ทีมสอบเผยว่า นายเกามีความวิปริตทางเพศและเกลียดผู้หญิง นิสัยสันโดษ ไม่เข้าสังคม แต่อดทนสูง ช่วงเกิดคดีไม่หยุด ตำรวจพยายามตามล่าตัวคนร้าย โดยตั้งเงินรางวัล 2 แสนหยวน หรือราว 1 ล้านบาท หลังจากได้เทคโนโลยีประกอบการสอบสวนใหม่แล้ว ในปี 2559 ตำรวจจึงรื้อคดีขึ้นมาใหม่ และเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุได้
จุดโชคดีของตำรวจที่ไขคดีได้ มาจากการที่อาของนายเกาถูกจับในคดีอาชญากรรมเล็กๆ น้อยๆ และผลตรวจดีเอ็นเอ ฟ้องว่ามีจุดเชื่อมโยงกับผู้ต้องสงสัยเป็นฆาตกรต่อเนื่อง จึงทำให้การสอบสวนของตำรวจตีวงได้แคบลง จนไปถึงตัวนายเกา ผู้อาศัยอยู่ที่เมืองฉิงเชิง ตรวจสอบพบว่ามีลูกชายสองคน
ในปี 2531 ปีที่ลูกชายคนแรกเกิด นายเกาเริ่มฆ่าคนครั้งแรก เหยื่อเป็นสาวอายุ 23 ปี ถูกจ้วงแทง 26 ครั้งและถูกปาดคอในบ้านของหญิงสาวเอง นายเกาอ้างภายหลังว่าฆ่าเหยื่อรายนี้เพราะหญิงสาวจับได้ว่าตนพยายามจะขโมยของ
ซุย เซียงผิง น้องชายของน.ส.ซุย จิ้นผิง เหยื่อรายหนึ่งซึ่งถูกสังหารขณะอายุ 22 ปี กล่าวว่า ตอนนั้นแม่เป็นคนไปพบศพพี่สาวเป็นมือสองข้างและอวัยวะอื่นๆ ถูกหั่นแยกเป็นชิ้นๆ แต่ไม่เคยพบลำตัวของศพ แม่ร้องไห้ตั้งแต่ได้ยินว่าคนร้ายถูกจับขังแล้ว แม้เวลาจะผ่านมา 18 ปี แต่ครอบครัวก็ไม่เคยลืมพี่สาวเลย
ด้านลูกชายคนโตของนายเกาให้สัมภาษณ์ภายหลังรู้ว่าพ่อเป็นฆาตกรต่อเนื่องว่า แม้ตนเคยพบหน้าพ่อครั้งเดียว จึงไม่รู้จักมากนัก แต่ก็ช็อกที่รู้ว่าพ่อทำอะไรไป ยังทำใจไม่ได้ และไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงทำขนาดนี้
เช่นเดียวกับบรรดาเพื่อนบ้านที่ช็อกไปตามๆ กัน เพราะรู้จักนายเกาเพียงว่าเป็นคนเงียบๆ เก็บตัว ชอบการพนัน เต้นรำ และชอบสุนัข ไม่เคยคิดว่าจะทำถึงขนาดนี้ เพื่อนบ้านคนหนึ่งเคยฟังนายเกาพูดถึงคดีตำนานฆาตกรรมต่อเนื่องในเมืองไป่หยิน แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นนายเกาที่ก่อคดีนี้