1 เม.ย. เว็บไซต์ข่าว อินดิเพนเดนท์ รายงานข่าว หนุ่มสั่งให้แฟนสาวข่มขื่นลูกชายวัย 11 ปีของตัวเอง เพราะเชื่อว่า“เขาเป็นเกย์”
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงปี 2016 หลังจากเด็กชายวัย 11 ปีกลับบ้านมาเยี่ยมพ่อของเขา ในช่วงโรงเรียนปิดในวันหยุด แต่แล้วพ่อของเขาพบว่าลูกชายของเขาแอบมีความสัมพันธ์ลับๆกับเด็กชายอีกคน จึงบังคับให้แฟนสาวของเขาข่มขืนลูกชายของตนเอง เนื่องจากกังวลว่าลูกจะเป็นเกย์
Image/Independent/Sean Cole
ฌอน โคล วัย 29 ปี และแฟนสาวของเขา คาดีจา มัวร์ วัย 21 ปี จากรัฐแอละแบมา ประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุกหลังจากถูกศาลตัดสินว่า พวกเขามีความผิดในข้อหาร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราเด็กชายที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี
พนักงานอัยการกล่าวว่า “เหตุจูงใจในการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ของนาย โคล มีเพียงข้อเดียวคือ เขามีความกังวลเป็นอย่างมากว่าลูกชายจะเป็นเกย์ เพราะไม่ได้มีหลักฐานอะไรที่แสดงให้เห็นว่า เขามีความต้องการล่วงละเมิดเด็กชาย แต่เพียงคิดว่าหากทำเช่นนี้อาจช่วยไม่ให้ลูกชายเป็นเกย์ได้”
Image/Independent/Khadeijah Moore
นอกจากนี้ช่องฟอกซ์ เติร์ดทีน เมมฟิส ยังรายงานเพิ่มเติมว่า คาดีจา มัวร์ ได้ตัดสินใจที่จะหลบหนีการเข้าร่วมพิจารณาคดีของศาล ทำให้ศาลสั่งออกหมายจับเธอในฐานะผู้ต้องหาที่จงใจจะหลบหนีคดีอีกด้วย
แม้ว่าเหตุการณ์น่าสะเทือนใจนี้ จะผ่านมาเป็นระยะเวลาถึง 2 ปีแล้ว แต่เรื่องที่เกิดขึ้นยังคงเป็นเหมือนกับฝันร้ายที่คอยตามหลอกหลอนเด็กชาย ถึงแม้สภาวะจิตใจจะดีขึ้นกว่าเก่า แต่ถ้าเทียบกับเด็กปกติก็ยังถือว่าย่ำแย่ โดยมักจะคิดว่าตัวเองเป็นเด็กที่ไม่ดีและเอาแต่โทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุของเรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด เนื่องจากเขายังเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกินจากความผิดของเขา
