พ่อแม่วอนผู้ใจบุญช่วยค่าผ่าตัดแยกลูกแฝด แม้อาจต้องเสียคนหนึ่งไปแต่หวังพึ่งปาฏิหาริย์

วันที่ 3 เม.ย. เว็บไซต์เดลีเมล์รายงานว่า พ่อแม่ชาวฟิลิปปินส์ฐานะยากจนเร่งหาเงินราว 3.7 ล้านบาท เพื่อผ่าตัดลูกสาวฝาแฝดหน้าผากติดกัน อายุ 6 ขวบ ให้ลูกได้รับการรักษาที่เสี่ยงตายน้อยที่สุดเนื่องจากการผ่าตัดมีความเสี่ยงอาจทำให้ลูกคนใดคนหนึ่งเสียชีวิตได้

เด็กหญิงเชียราและชารีนา นอร์เตกามีส่วนบนของลำตัวติดกันและใช้หลอดเลือดแดงร่วมกันตั้งแต่เกิด แต่ปัจจุบันจำเป็นต้องแยกร่างกายของทั้งสองออกจากกันอย่างเร่งด่วน นายอาร์เนลและโซเนีย พ่อแม่ รู้ว่าหากผ่าตัดลูกแฝด แฝดคนใดคนหนึ่งอาจตาย

ส่วนการผ่าตัดรักษาอาจสูงถึง 85,000 ปอนด์หรือราว 3.7 ล้านบาท ขณะที่นายอาร์เนล ทำงานพาร์ตไทม์ได้เงินราว 219 บาทต่อวันเท่านั้น

แต่พ่อแม่แฝดเชื่อว่า การผ่าตัดแยกแฝดคุ้มค่าเพื่อให้แฝดอีกคนสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้น ครอบครัวแฝดอาศัยอยู่ในเมืองโรซัส จังหวัดปาลาวัน เด็กทั้งคู่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและเจ็บปวด ตั้งแต่อาบน้ำ กินข้าว เรียนหนังสือ ซึ่งจะต้องทำพร้อมๆ กัน เด็กหญิงเชียรามีปากแหว่งตั้งแต่เกิด ไม่สามารถพูดได้ดังนั้นชารีนาจึงแปลภาษาให้เชียรา

“ผมกำลังหารายได้ทุกทางอย่างสุดความสามารถ รับเข้าเวรหลายเวรเพื่อสามารถระดมเงินมารักษาลูกสาว แต่ผมก็รู้ว่าต่อให้ผมทำงานตลอดชีวิต ก็ไม่สามารถหาเงินค่าผ่าตัดทั้งหมดได้” นายอาเนลกล่าว และว่า ตนได้ติดต่อเพื่อน ครอบครัว หรือแม้แต่คนแปลกหน้า เพื่อขอความช่วยเหลือ หวังว่าจะมีใครสักคนที่อยู่มุมใดมุมหนึ่งของโลกได้ยินคำขอร้องของเราและมาช่วยเหลือ

ด้านโซเนีย แม่ฝาแฝดกล่าวว่าเรารักษาลูกสาวมาหลายวิธี ทั้งทำวิธีเอ็กซเรย์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์หรือซีทีสแกน การตรวจเอ็กซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือเอ็มอาร์ไอ

“เราตัดสินใจที่จะผ่าตัด ฉันรู้ดีว่าระหว่างผ่าตัด เราอาจเสียลูกไปคนหนึ่ง หากแฝดหนึ่งคนได้รับการรักษาจนหายและเริ่มใช้ชีวิตปกติ ฉันจะรู้ได้ว่าการเสียสละชีวิตของแฝดอีกคนนั้นคุ้มค่า ฉันมองโลกในแง่ดีและเชื่อในปาฏิหาริย์ของวิทยาศาสตร์” โซเนียกล่าว

“ฉันปรารถนาที่จะส่งลูกสาวทั้งสองไปรักษากับศัลยแพทย์ที่เก่งๆ ที่สามารถรับมือกับความเสี่ยงของเคสลูกแฝดได้ หัวใจฉันบอกว่า ทั้งคู่จะรอดตายและจะสามารถมีชีวิตปกติได้ ” โซเนียกล่าว และว่า ชารีนาเป็นเด็กเรียนดี ใฝ่รู้อย่างมาก ชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ทั้งคู่ชอบฟังเรื่องเล่า ชอบวาดภาพ ชีวิตเป็นสิ่งที่ยากสำหรับแฝด แต่ฉันต้องการที่จะเลี้ยงลูกให้โตมาเหมือนเด็กปกติทั่วไป สามีและฉันเลี้ยงลูกสาวทั้งสองมาด้วยความรัก อาทร และความเอาใจใส่

แม่ของลูกแฝดกล่าวอีกว่า ย้อนไปเมื่อลูกแฝดยังอยู่ในท้อง หมอบอกว่าเด็กจะคลอดออกมาตาย แต่ด้วยสัญชาตญาณของแม่ที่รู้สึกว่าลูกดิ้นอยู่ในท้อง จึงไม่เชื่อ จนในที่สุดแฝดรอดมาได้ ทำให้ หมอและสามีแปลกใจอย่างมาก ตนจึงหวังว่าจะเกิดปาฏิหาริย์อีกสักครั้ง