เอพีรายงานว่า เมื่อ 4 เม.ย. มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมผู้จัดการ หรือซีอีโอ ของบริษัทเฟซบุ๊ก สื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังก้องโลก กำหนดนัดเข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการพาณิชย์ สภาผู้แทนฯ สหรัฐอเมริกา วันที่ 11 เม.ย.นี้ เพื่ออธิบายว่า บริษัทเก็บข้อมูลจากผู้ใช้สื่อโซเชียลมีเดียของตนอย่างไร ปกป้องอย่างไร และนำไปใช้ประโยชน์อย่างไรบ้าง
กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องสะเทือนวงการโซเชียลมีเดียครั้งใหญ่ หลังมีอดีตพนักงานบริษัทเคมบริดจ์ อนาลีติกา ลูกค้าของเฟซบุ๊ก แฉว่าเฟซบุ๊กปล่อยข้อมูลผู้ใช้ให้เคมบริดจ์ อนาลีติกาที่ทำงานให้กับทีมหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เอาข้อมูลสมาชิกเพจถึง 50 ล้านรายไปหาประโยชน์สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
ทิม คุก และ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (AP Photo/Eric Risberg, File)
ขณะเดียวกัน ซักเคอร์เบิร์กถูกทิม คุก ซีอีโอ ของบริษัทแอปเปิ้ล กล่าวเชิงยกตนข่มท่าน ว่า แอปเปิ้ลจะไม่มีทางตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเฟซบุ๊ก เพราะแอปเปิ้ลไม่นำข้อมูลลูกค้าไปหากินด้วยการขายโฆษณา แม้ว่าถ้าทำอย่างนั้นคงสร้างรายได้ให้แอปเปิ้ลมหาศาล แต่แอปเปิ้ลไม่ทำเพราะ “ลูกค้าไม่ใช่ผลิตภัณฑ์”
Facebook CEO Mark Zuckerberg / Getty Images/AFP
ซักเคอร์เบิร์กตอบโต้คำวิจารณ์นี้ว่า เป็นการพูดพล่อยๆ ไม่รู้จักคิดอะไรเลย ก่อนอธิบายว่า เฟซบุ๊กต้องใช้โมเดลธุรกิจที่ใช้โฆษณาสนับสนุน เพราะเฟซบุ๊กไม่ได้เก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ใช้บริการ เฟซบุ๊กออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงทุกคน จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนทุกคนจะมีเงินจ่ายให้เฟซบุ๊ก รายได้จากโฆษณาจึงเป็นทางเดียวที่เฟซบุ๊กจะอยู่ได้
“ผมว่าพวกเราทุกคนต้องตั้งสติอย่าเพิ่งมโนจนกลายเป็นจำเลยสังคมกันหมด แล้วปล่อยให้บริษัทบางบริษัทที่ชอบขายของแพงเกินจริงให้พวกคุณเนี่ย ปั่นหัวคุณจนเชื่อว่า พวกเขาแคร์คุณจริงๆ อมพระมาพูดผมก็ไม่เชื่ออ่ะครับ” ซักเคอร์เบิร์กกล่าวประชดเสียดสีแอปเปิ้ลในตอนท้าย
