รัสเซียลั่นเอาคืนแน่ เหตุยูเครนปล่อยจรวดถล่มไครเมียตายเจ็บนับร้อย
รัสเซียลั่นเอาคืนแน่ – วันที่ 25 มิ.ย. บีบีซีรายงานว่า ทางการรัสเซียประกาศจะตอบโต้เหตุยูเครนปล่อยขีปนาวุธโจมตีเมืองเซวาสโตพอล แคว้นไครเมีย มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ในจำนวนนี้ มีเด็ก 2 ราย บาดเจ็บกว่า 150 คน โดยรัสเซียกล่าวโทษสหรัฐอเมริกาในฐานะต้นเหตุ
การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยเศษชิ้นส่วนของขีปนาวุธข้างต้นปลิวตกกระแทกบริเวณชายหาดที่มีพลเรือนอยู่จำนวนมากทำให้ยอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมีสูง
กระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยว่า ขีปนาวุธที่ยูเครนใช้นั้นถูกปล่อยมาจากระบบขีปนาวุธเชิงยุทธวิธี (ATACMS) ที่สหรัฐอเมริกาส่งมาให้กับยูเครน และผ่านการตั้งโปรแกรมโดยผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐ แต่สหรัฐปฏิเสธว่า เป็นการตัดสินใจของยูเครนแต่เพียงผู้เดียว
นายดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย กล่าวหาทางการสหรัฐ ว่าใช้การโจมตีที่ป่าเถื่อนเพื่อเข่นฆ่าเด็กๆ ชาวรัสเซีย พร้อมย้ำถึงคำประกาศของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ที่เคยระบุไว้ว่าจะเล่นงานชาติที่ให้การสนับสนุนอาวุธแก่ยูเครน
รายงานระบุว่า ความเสียหายเกิดขึ้นหลังระบบต่อต้านขีปนาวุธของรัสเซียยิงสกัดขีปนาวุธ 5 ลูก ที่ยูเครนปล่อยพุ่งเข้ามาในแคว้นไครเมีย โดยทั้งหมดบรรจุหัวรบระเบิดลูกปราย แต่เศษชิ้นส่วนของขีปนาวุธที่แตกกระจายนั้นปลิวไปตกในเขตชุมชน
ภาพจากสถานีโทรทัศน์รัสเซียเผยให้เห็นความโกลาหลที่ชายหาดเมืองเซวาสโตพอลหลังชิ้นส่วนขีปนาวุธปลิวตกลงทั่วบริเวณ ขณะที่ทางการรัสเซียอ้างว่า ขีปนาวุธ ATACMS นั้นผ่านการตั้งโปรแกรมโดยผู้เชี่ยวชาญสหรัฐและใช้ดาวเทียมสหรัฐเป็นระบบนำวิถี
นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า ระบบขีปนาวุธ ATACMS ไม่สามารถทำงานโดยปราศจากการมีส่วนร่วมของกองทัพสหรัฐฯ และแสนยานุภาพดาวเทียมของสหรัฐ
ทางการสหรัฐส่งระบบขีปนาวุธ ATACMS ให้กับยูเครนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยูเครนมีขีดความสามารถในการโจมตีเป็นระยะทางไกลถึง 300 กิโลเมตร อย่างไรก็ดี รัสเซียเข้ายึดและผนวกแคว้นไครเมียจากยูเครนเมื่อปี 2557 ยูเครนจึงไม่ถือว่าเป็นการโจมตีดินแดนของรัสเซีย
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังเรียกนางลินน์ เทรซี เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงมอสโกเข้าพบเพื่อแสดงความไม่พอใจ โดยนายลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย ยืนยันถึงความเกี่ยวข้องของสหรัฐว่าชัดเจนอย่างไม่มีข้อสงสัย
รัสเซียเคยขู่จะโจมตีเป้าหมายในชาติที่สนับสนุนอาวุธให้กับยูเครน โดยอ้างว่าเป็นเป้าหมายที่ชอบธรรม ขณะที่ทางการยูเครน ยืนยันถึงการโจมตีเป้าหมายในแคว้นไครเมีย ว่ามีความชอบธรรมเช่นกัน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสหประชาชาติ หรือยูเอ็น บ่งชี้ว่า สงครามรัสเซียรุกรานยูเครนนั้นส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 หมื่นราย ตั้งแต่เดือนก.พ. 2565 ส่วนผู้เชี่ยวชาญอื่น มองว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจริงนั้นน่าจะสูงกว่านี้มาก