เมื่อวันที่ 5 เม.ย. เอเอฟพีรายงานว่า ทางการรัสเซียขอเปิดประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี อย่างเร่งด่วน หลังเกิดกรณีพิพาทระหว่างทางการอังกฤษกับรัสเซีย นำไปสู่การตอบโต้มาตรการทางการทูตที่ลุกลามกลายเป็นการตอบโต้กันระหว่างชาติพันธมิตรกับรัสเซีย

AFP

การขอเปิดประชุมอย่างเร่งด่วนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังความล้มเหลวของทางการรัสเซียในการขอให้องค์การห้ามอาวุธเคมี หรือโอพีซีดับเบิ้ลยู ตั้งอยู่ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เปิดการสืบสวนต่อคดีคนร้ายใช้อาวุธเคมีที่เป็นสารอนุพันธ์ประเภทโนวิชก ซึ่งคิดค้นขึ้นโดยอดีตสหภาพโซเวียต ลอบทำร้ายนายเซอร์เก สกรีปอล อดีตสายลับสองหน้าของอังกฤษ และบุตรสาว ที่เมืองซอลส์บรี มณฑลวิลท์เชอร์ ของอังกฤษ โดยนางเธเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวหาว่า มีข้อบ่งชี้ที่เป็นไปได้สูงว่าทางการรัสเซียอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุดังกล่าว

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย / AFP

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า อังกฤษไม่ควรปฏิเสธคำขอที่ถูกต้องจากรัสเซีย หลังฝ่ายอังกฤษยังคงปฏิเสธคำขอของทางการรัสเซียที่จะร่วมสืบสวนในคดีที่เกิดขึ้น ขณะที่แหล่งข่าวจากแวดวงการทูตระดับสูง ระบุว่า มีเพียง 6 ประเทศ ที่สนับสนุนคำขอของรัสเซียต่อโอพีซีดับเบิ้ลยูให้เข้าแทรกแซง อีก 15 ประเทศนั้นไม่สนับสนุน และอีก 17 ประเทศ ของดออกเสียง ทำให้รัสเซียไม่สามารถผลักดันคำขอต่อไปได้ เพราะต้องได้รับความเห็นชอบอย่างน้อย 2 ใน 3 จากชาติสมาชิก

นายสกรีปอล

ด้านนายเซอร์เก นาริชกิน ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวกรองการต่างประเทศของรัสเซีย เตือนว่า รัสเซียและชาติตะวันตกจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงความตึงเครียดระหว่างกัน ก่อนที่จะนำไปสู่สงครามเย็นรอบใหม่ แต่นายโบริส จอห์นสัน รมว.ต่างประเทศอังกฤษ แสดงความยินดีต่อความล้มเหลวของรัสเซีย เช่นเดียวกันกับ สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป หรืออียู ที่ระบุว่าเชื่อในการสืบสวนของอังกฤษ ส่วนโอพีซีดับเบิ้ลยู ระบุว่า ได้รับตัวอย่างสารเคมีจากอังกฤษแล้วและกำลังอยู่ระหว่างวิเคราะห์ คาดว่า จะได้ข้อมูลแน่ชัดในสัปดาห์หน้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน