เอพีรายงานวันที่ 6 เม.ย. ถึงความคืบหน้าศึกการค้าสหรัฐอเมริกา-จีนที่ตึงเครียดขึ้นต่อเนื่อง เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เสนอให้สำนักผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) พิจารณามาตรการเพิ่มกำแพงภาษีสินค้านำเข้าของจีน อีกมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.1 ล้านล้านบาท จากเดิมประกาศไว้แล้ว 1,300 รายการจะขึ้นภาษีร้อยละ 25 คิดเป็นมูลค่ากว่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.5 ล้านล้านบาทต่อปี เมื่อ 3 เม.ย.
ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เปิดเผยแถลงการณ์ของนายทรัมป์ว่า การพิจารณาเพิ่มกำแพงภาษีเป็นไปตามวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องเกษตรกรชาวอเมริกัน และสินค้าทางการเกษตรของประเทศ เนื่องจากระบบการค้าผิดกฎหมายของจีนทำลายโรงงานหลายพันแห่งในสหรัฐ และกระทบต่องานของชาวอเมริกันหลายล้านคน
ถั่วเหลือง สินค้าที่จีนจะเล่นงานกลับสหรัฐ (AP Photo/Keith Srakocic)
ด้านกระทรวงพาณิชย์จีนตอบโต้ทันทีโดยระบุบนเว็บไซต์ว่า “หากฝั่งอเมริกาไม่เห็นด้วยกับการต่อต้านจากจีนและประชาคมโลก ทั้งยังยืนยันที่จะดำเนินการตามลัทธิคุ้มครองการค้าอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้ต่อไป จีนก็จะเดินหน้าตามนโยบายของตนไปจนกว่าจะถึงที่สิ้นสุดไม่ว่าจะต้องเสียอะไรก็ตาม เราไม่ต้องการทำสงครามทางการค้า แต่เราไม่กลัวที่จะสู้ในศึกนี้เช่นกัน”
A truck transports a shipping container at the cargo terminal port in Qingdao in east China’s Shandong province, Friday, April 6, 2018. . (Chinatopix via AP)
สงครามการค้าครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง เริ่มระอุขึ้นหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามอนุมัติเพิ่มกำแพงภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมนำเข้าร้อยละ 25-10 เมื่อเดือนมี.ค.
President Donald Trump speaks (AP Photo/Susan Walsh)
จากนั้นรัฐบาลจีนตอบโต้ด้วยการประกาศเพิ่มอัตราจัดเก็บภาษีศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้า 128 รายการจากสหรัฐ มีอัตราภาษีสูงสุดร้อยละ 25 มูลค่ากว่า 93,000 ล้านบาทต่อปี เริ่มบังคับใช้เมื่อวันที่ 2 เม.ย
เพียง 1 วันให้หลัง สหรัฐก็แถลงเตรียมเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนคิดเป็นมูลค่า 1.5 ล้านล้านบาทต่อปี ส่วนจีนเปิดเผยบัญชีรายการสินค้านำเข้าจากสหรัฐที่ขึ้นภาษีเพิ่มเติม ในจำนวนนี้รวมถึงถั่วเหลืองซึ่งเป็นสินค้าส่งออกขนาดใกญ่ที่สุดของสหรัฐไปยังจีน นอกจากนี้ยังมีเครื่องบิน เนื้อวัว วิสกี้ รถยนต์ และเคมีภัณฑ์
