หนุ่มจีนวัย 30 ปี บีบสิวที่ก้น ทำไข้สูง ติดเชื้อรุนแรง เข้าห้อง ICU แพทย์เตือนไม่ควรบีบสิว พร้อมให้เหตุผล
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน คนไข้รายหนึ่งอายุ 30 ปีจากเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน พบว่าตนเองมี “สิว” ที่บั้นท้ายจึงบีบสิวออก ซึ่งส่งผลให้ภายในไม่กี่วัน เขามีไข้สูงซ้ำแล้วซ้ำเล่าและมีการติดเชื้อแบคทีเรียอย่างรุนแรง ซึ่งนำไปสู่โรคพังผืดอักเสบแบบเนื้อตาย และในที่สุดเขาก็ถูกส่งตัวเข้าห้อง ICU (Intensive Care Unit)
ตามรายงาน แพทย์ระบุว่า หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสิวหรือฝี แต่จริง ๆ แล้วเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่รูขุมขน สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ การติดเชื้อ Staphylococcus aureus ซึ่งทำให้เกิดก้อนเนื้อบนผิวหนังที่เกิดจากการสะสมของหนองและเนื้อเยื่อที่ตายแล้ว ฝีที่บวมโดยพื้นฐานแล้วจะเป็นก้อนหนองที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
แพทย์เน้นย้ำว่า เมื่อพบหนองสีเหลืองขาวในสิวหรือฝี ไม่ควรบีบด้วยมือโดยเฉพาะสิวบนใบหน้า เนื่องจากมีท่อน้ำเหลืองและโครงข่ายหลอดเลือดใต้ผิวหนังที่เชื่อมต่อกับหลอดเลือดในกะโหลกศีรษะมากมาย หากแบคทีเรียแพร่กระจายและบุกรุกหลอดเลือดผ่านการแตกระหว่างการบีบ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในกะโหลกศีรษะจนเกิดอาการหน้าบวม หนาวสั่น มีไข้สูง ปวดศีรษะ อาเจียน และถึงขั้นเสียชีวิตได้
แพทย์กล่าวเพิ่มเติมว่า วิธีรักษาฝีมักจะคือการกรีดและระบายหนองออก หากฝีเกิดขึ้นในบริเวณที่บอบบาง เช่น ขาหนีบ, หน้าอก, รักแร้, รอบรูจมูก, ในโพรงจมูก หรือในหู แนะนำให้กรีดและระบายหนองโดยเร็วที่สุด และใช้ขี้ผึ้งยาเพื่อรักษา อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้ยาต้านเชื้อแบคทีเรียนานกว่าหนึ่งเดือนและเว้นระยะห่างในการทา