อิหร่านเปิดศึกเดือด ยิงขีปนาวุธถล่มอิสราเอลเกือบ 200 ลูก แค้นปมสังหารผู้นำ ยิวลั่นประกาศเอาคืน ทั่วโลกจับตา
กลายเป็นข่าวที่ประชาชนทั่วโลกต้องจับตา หลังเกิดเหตุการณ์ความตึงเครียดในทางภูมิภาคตะวันออกกลางที่ปะทุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า อิหร่านเปิดศึกเดือด ยิงขีปนาวุธโจมตีทางอากาศเกือบ 200 ลูกไปที่อิสราเอลเมื่อคืนวันอังคาร 2 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น สร้างความกังวล หวั่นอาจเกิดสงครามเต็มรูปแบบ
โดยความรุนแรงครั้งนี้เป็นการตอบโต้หลังจากอิสราเอลสังหาร นายฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศพื้นที่ตอนใต้ของกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันศุกร์ที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา

ภาพประกอบ
ขณะที่ทางด้านกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) ระบุว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธ 180 ลูกไปยังฐานทัพของประเทศ และโจมตีเมืองเทลอาวีฟและศูนย์กลางประชากรอื่นๆ ได้ โดยระบุว่า ทางการสามารถใช้ Iron Dome สกัดขีปนาวุธได้หลายลูก แม้ว่าบางลูกจะตกลงบนพื้นดินในอิสราเอลและเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครองก็ตาม
ขณะเดียวกัน ทางด้านหน่วยกู้ภัยแห่งชาติของอิสราเอล ระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 รายจากสะเก็ดระเบิดในเขตเวสต์แบงก์ อีกทั้งมีชายชาวปาเลสไตน์คนหนึ่งเสียชีวิตจากขีปนาวุธที่ตกลงมาใกล้เมืองเจริโค โดยขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าการโจมตีเกิดขึ้นที่ใดบ้าง

ภาพประกอบ
นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ระบุว่า การโจมตีของอิหร่านถือเป็น “ความผิดพลาดครั้งใหญ่” พร้อมกับให้คำมั่นว่า อิหร่าน “จะต้องชดใช้ต่อการกระทำครั้งนี้”
ขณะเดียวกัน ทางด้านประชาชนชาวอิหร่านบางส่วนต่างออกมาเฉลิมฉลองการโจมตีอิสราเอลครั้งนี้บนท้องถนนในกรุงเตหะราน

ภาพประกอบ : Iron Dome (ไอรอนโดม)
อย่างไรก็ตาม ทางด้านแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นว่า ทางสหรัฐสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มที่ โดยทางเราได้ใช้เรือรบของสหรัฐช่วยสกัดขีปนาวุธไว้ได้ราว 12 ลูก และกล่าวว่า รัฐบาลของเขายังคงหารือกับอิสราเอลอยู่ว่าจะตอบสนองอย่างไรจึงจะเหมาะสม
ทั้งนี้ ล่าสุดเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความกังวล และดูน่าเป็นห่วง ทางประเทศ อิรัก จอร์แดน อิหร่าน และอิสราเอล จึงได้สั่งให้ปิดน่านฟ้า เพื่อรอดูสถานการณ์อันน่าตึงเครียดนี้อย่างใกล้ชิด
𝐍𝐨 𝐭𝐡𝐢𝐬 𝐢𝐬𝐧’𝐭 𝐚 𝐬𝐜𝐢𝐞𝐧𝐜𝐞 𝐟𝐢𝐜𝐭𝐢𝐨𝐧 𝐦𝐨𝐯𝐢𝐞.
This is Israel right now.
RT this so the entire world knows. pic.twitter.com/ok8CxCXxnP
— Israel ישראל (@Israel) October 1, 2024