เมื่อวันที่ 9 เม.ย. เว็บไซต์บูดาเปสต์บีคอนและบีบีซีรายงานผลจากการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศฮังการี ว่า พรรคฟิเดซ ของนายวิเตอร์ ออร์บัน และพรรคพันธมิตรอย่าง พรรคประชาชนประชาธิปไตยคริสเตียน หรือ เคดีเอ็นพี ชัยชนะถล่มทลายกวาดที่นั่งเกินกึ่งหนึ่งของสภา ส่งผลให้นายวิเตอร์ ออร์บันรั้งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีได้อีกติดต่อกันเป็นสมัย 3 หลังจากดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้วเป็นเวลากว่า 11 ปี
ชัยชนะของนายออร์บัน ส่งผลให้พรรคฟิเดซ และพรรคเคดีเอ็นพี เป็นรัฐบาลต่อได้อีกหนึ่งสมัย กวาดที่นั่งไปทั้งหมด 133 ที่นั่ง จาก 199 ที่นั่ง ขณะที่พรรคจ็อบบิก ซึ่งเป็นพรรคแนวอนุรักษ์นิยมได้คะแนนมาเป็นอันดับที่ 2 หรือ ร้อยละ 19 มี 26 ที่นั่ง
ส่วนแนวร่วมพรรคพันธมิตรฝ่ายซ้าย ซึ่งประกอบด้วยพรรคแรงงานและพรรคไดอะล็อก ได้ 20 ที่นั่ง คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12 ส่วนพรรคเอลเอ็มพี ซึ่งเป็นพรรคแนวคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ไป 8 ที่นั่ง คิดเป็นร้อยละ 6 ส่วนพรรคแนวร่วมประชาธิปไตยหรือ ดีเค ได้ไป 9 ที่งนั่งคิดเป็นร้อยละ 5 และพรรคเอ็กยืตต์ ได้ไปที่นั่งเดียว คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.63
ทั้งนี้ เชื่อว่าชัยชนะของนายออร์บันจะทำให้รัฐบาลยิ่งเร่งผลักดันนโยบายปิดกั้นพรมแดน และป้องกันไม่ให้ผู้อพยพมุสลิมไหลเข้าประเทศ
นอกจากนี้นายออร์บันยังได้กล่าวเมื่อครั้งหาเสียงล่าสุดวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า กลุ่มผู้อพยพคือสนิมร้ายที่คอยกัดกินฮังการี มากกว่านั้นนายออร์บันยังเป็นหนึ่งในนักการเมืองที่ต่อต้านการรวมตัวของสหภาพยุโรป และไม่เคยเข้าร่วมข้อตกลงใดๆของสหภาพอียูที่เกี่ยวกับการตั้งรกรากถิ่นฐานให้กับผู้ลี้ภัย
ผู้สนับสนุนพร้อมป้ายเชียร์นายวิกเตอร์ ออร์บัน /AFP
ส่วนเรื่องในประเทศ อย่างด้านเศรษฐกิจนายออร์บันเล็งที่จะลดภาษีในประเทศเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเจริญเติบโต เหมือนที่เคยประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ด้วยจำนวนเสียงในสภาจะช่วยให้นายออร์บันมีอำนาจเด็ดขาดในการเปลี่ยนแปลงกฎหมายรัฐธรรมนูญตามได้ตามต้องการ
