เวทีUNSCเดือด ตะวันตกช่วยยูเครนได้-ทำไมโสมเหนือช่วยรัสเซียไม่ได้?
เวทีUNSCเดือด – วันที่ 31 ต.ค. รอยเตอร์รายงานว่า ทางการรัสเซียตั้งคำถามกลับต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ชาติตะวันตกครหา ว่าเกาหลีเหนือส่งกำลังพลไปช่วยรัสเซียทำสงครามรุกรานยูเครน ว่าทำไมจึงทำไม่ได้ ในเมื่อชาติตะวันตกก็ช่วยเหลือยูเครนเช่นกัน
นายวาสซิลี นีเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ตั้งคำถามดังกล่าวในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี
หลังสหรัฐอเมริกา อังกฤษ เกาหลีใต้ ยูเครน และอีกหลายชาติ กล่าวหารัสเซียว่าละเมิดมติของยูเอ็นเอสซีและกฎบัตรสหประชาชาติ กรณีการนำกำลังพลจากเกาหลีเหนือมาช่วยทำสงคราม
นายจุนกุ๊ก ฮวง เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำยูเอ็น ระบุว่า การสนับสนุนชาติใดๆ ที่ทำสงครามรุกรานชาติอื่นเป็นการละเมิดหลักการของกฎบัตรแห่งสหประชาชาติ ถือว่าผิดกฎหมาย
“กิจกรรมใดๆ ที่จะเกิดสืบเนื่องมาจากการส่งกำลังพลจากเกาหลีเหนือไปรัสเซียนั้นเป็นการฝ่าฝืนข้อมติของยูเอ็นเอสซี” นายฮวงระบุ
ขณะที่พลเอกลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือเพนตากอน เปิดเผยว่า มีทหารของเกาหลีเหนือกว่า 1 หมื่นนาย อยู่บริเวณภาคตะวันออกของรัสเซีย และดูเหมือนอาจถูกนำไปใช้เพื่อสนับสนุนภารกิจทางทหารของรัสเซียที่แคว้นคูร์ส (กำลังถูกยูเครนบุก)
นายนีเบนเซีย กล่าวชี้แจงว่า การปฏิสัมพันธ์กันระหว่างกองทัพรัสเซียและเกาหลีเหนือไม่ได้ฝ่าฝืนข้อบังคับสากลใดๆ
“ต่อให้บรรดาข้อครหาทั้งหมดถึงความร่วมมือกันระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือเป็นความจริง เหตุใดสหรัฐและชาติตะวันตกถึงต้องการนำตรรกะย้อนแย้งของตัวเองมาใช้กับชาติอื่น ว่าพวกตัวเองเท่านั้นที่มีสิทธิช่วยเหลือรัฐบาลยูเครนได้ แต่พันธมิตรของรัสเซียกลับไม่มีสิทธิช่วยเหลือรัสเซียได้” นีเบนเซียตอบโต้
ขณะที่นายเซอร์กีย์ คิสลิตสยา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำยูเอ็น ตอบโต้ทันควันว่า ไม่มีชาติใดที่ช่วยเหลือยูเครนถูกคว่ำบาตรจากยูเอ็นเอสซี แต่รัสเซียกำลังรับความช่วยเหลือจากชาติที่ถูกยูเอ็นเอสซีคว่ำบาตรอยู่
“การรับความช่วยเหลือจากชาติที่ถูกยูเอ็นเอสซีลงโทษอยู่นั้นฝ่าฝืนกฎบัตรสหประชาชาติอย่างร้ายแรง” และว่า “การที่เกาหลีเหนือส่งกำลังพลไปช่วยรัสเซียรุกรานยูเครนก็ถือว่าละเมิดข้อบังคับสากลด้วย” คิสลิตสยาระบุ
รายงานระบุว่า เกาหลีเหนือเผชิญกับบทลงโทษจากยูเอ็นเอสซีมาตั้งแต่ปี 2549 โดยมาตรการลงโทษนั้นถูกยกระดับหลายครั้งเพื่อบีบคั้นให้เกาหลีเหนือยุติการพัฒนาแสนยานุภาพนิวเคลียร์และขีปนาวุธวิถีโค้ง
อย่างไรก็ดี ทางการเกาหลีเหนือไม่เคยยอมรับอย่างเป็นทางการว่าส่งกำลังพลไปรัสเซีย เพียงยืนยันว่าหากเกาหลีเหนือจะทำเช่นนั้นก็จะต้องเป็นไปตามข้อบังคับสากล
นายซอง คิม เอกอัครราทูตเกาหลีเหนือประจำยูเอ็น ระบุว่า หากอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของรัสเซียตกอยู่ในภาวะถูกคุกคามหรือถูกโจมตีจากสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตก แล้วเกาหลีเหนือพิจารณาเห็นว่าจำเป็นต้องตอบโต้ เกาหลีเหนือก็จะตัดสินใจตามความจำเป็น
นายคิม กล่าวย้ำอีกว่า รัสเซียกับเกาหลีเหนือนั้นมีการติดต่อประสานงานกันอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาเพื่อความมั่นคงร่วมกัน ตลอดจนติดตามพัฒนาการของสถานการณ์ร่วมกันด้วย
ส่งผลให้นายโรเบิร์ต วู้ด อัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็น กล่าวข่มขู่ไปยังนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ว่าหากทหารของเกาหลีเหนือเข้าสู่ยูเครนเมื่อใดก็จะต้องกลับออกไปในถุงศพ ตนจึงขอเรียนแนะนำไปยังผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ว่าควรไตร่ตรองให้ดีก่อนจะทำอะไรวู่วาม