เปิดประวัติ “โดนัลด์ ทรัมป์” ตัวแทนพรรครีพับลิกัน พาย้อนจุดเริ่มต้นทางการเมือง สู่การคว้าชัยศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 นั่งเก้าอี้ ‘ประธานาธิบดีสหรัฐ’ อีกครั้ง
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ทราบผลอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ ศึกการเลือกตั้งครั้งใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ระหว่าง อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และ กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต
โดยผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 ในครั้งนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน สามารถคว้าตำแหน่ง ‘ประธานาธิบดีสหรัฐ 2024’ ไปครองได้อีกครั้ง หลังจากเคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2016
วันนี้ ข่าวสดออนไลน์ พาทำความรู้จัก “โดนัลด์ ทรัมป์” (Donald John Trump) ผู้ชนะศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 สามารถนั่งเก้าอี้ ‘ประธานาธิบดีสหรัฐ’ อีกครั้ง

ภาพประกอบ
ประวัติส่วนตัว “โดนัลด์ ทรัมป์” (Donald John Trump)
- โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ (Donald John Trump)
- เกิดวันที่ 14 มิถุนายน 1946
- เป็นบุตรคนที่ 4 จากพี่น้องทั้งหมด 5 คน บิดาคือ เฟรดเดอริก คริสต์ ทรัมป์ (Frederick Christ Trump) ผู้ประสบความสำเร็จอย่างมากกับกิจการอสังหาริมทรัพย์สำหรับชนชั้นกลาง และมารดาคือแมรี่ แอนน์ แมคลีโอด ทรัมป์ (Mary Anne MacLeod Trump)
ชีวิตวัยเด็กของเขา เติบโตในย่านหรูของควีนส์ นครนิวยอร์ก แต่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม พ่อแม่จึงส่งทรัมป์วัย 13 ปี ไปปลูกฝังวินัยที่โรงเรียนทหารนิวยอร์ก (New York Military Academy) โดยทรัมป์บอกว่าเพลิดเพลินกับวิถีชีวิตที่นั่น
ประวัติ การศึกษา “โดนัลด์ ทรัมป์” (Donald John Trump)
- ทรัมป์เข้าศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮม (Fordham University)
- ก่อนจะย้ายไปเรียนสาขาเศรษฐศาสตร์ที่โรงเรียนธุรกิจวอร์ตัน (Wharton School) ของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย จนสำเร็จการศึกษาในปี 1968
ในช่วงสงครามเวียดนามในทศวรรษ 1960 ทรัมป์ยื่นผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร เนื่องจากติดเรียนและป่วยเป็นโรคกระดูกงอก (Bone Spurs) ตามคำวินิจฉัยของแพทย์
ต่อมาเมื่อสหรัฐเปลี่ยนระบบการเกณฑ์ทหารเป็นแบบสุ่มตามวันเกิดในภายหลัง ลำดับวันเกิดของทรัมป์ก็ถูกเรียกเป็นคิวที่ 356 จาก 366 เขาจึงไม่ถูกเกณฑ์ไปรับใช้ชาติ

ภาพประกอบ
ประวัติ การทำงานด้านธุรกิจ “โดนัลด์ ทรัมป์” (Donald John Trump)
- หลังจบการศึกษา ทรัมป์กลับมาช่วยพ่อทำธุรกิจที่นิวยอร์ก และสืบทอดกิจการเต็มตัวในปี 1971
- ธุรกิจดำเนินมาด้วยดีจนกระทั่ง เกิดเรื่องอื้อฉาวในปี 1973 ซึ่งกระทรวงยุติธรรมสหรัฐกล่าวหาบริษัทของทรัมป์ว่ามีการเลือกปฏิบัติไม่อนุญาตให้ชาวแอฟริกันอเมริกันเช่าอาศัย แม้ไม่มีการยอมรับผิดโดยตรง แต่ทรัมป์ก็รับปากว่าจะให้บริการผู้เช่าผิวสีมากขึ้น
- ช่วงทศวรรษ 1970 ทรัมป์ขยับขยายธุรกิจออกไปยังมลรัฐต่าง ๆ นอกนิวยอร์กมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้ตั้งสำนักงานทรัมป์ ทาวเวอร์ (Trump Tower) บนถนนฟิฟธ์อเวนิว (Fifth Avenue) เขตแมนฮัตตันซึ่งเป็นย่านหรูในมหานครนิวยอร์กด้วย
- ทรัมป์ยังขยายธุรกิจให้มีความหลากหลายกว่าเดิม ได้แก่ โรงแรม รีสอร์ต ที่พักอาศัย กาสิโน อาคารพาณิชย์ และสนามกอล์ฟ
- ผลงานใหญ่ชิ้นแรกของทรัมป์เกิดขึ้นในปี 1976 เมื่อเขาใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเครือโรงแรมไฮแอท (Hyatt) และอิทธิพลทางการเมืองของพ่อ (ซึ่งเป็นสมาชิกคนสำคัญของกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตแห่งบรูคลิน) เพื่อเจรจาข้อตกลงพิศดารกับรัฐบาลนครนิวยอร์ก ผลคือเขาได้รับการลดหย่อนภาษีเป็นเวลา 40 ปี และนำข้อเสนอนั้นไปเจรจาซื้อคอมโมโดร์ โฮเทล (Commodore Hotel) จากเพนน์ เซ็นทรัล เรลโรดที่กำลังล้มละลาย (Penn Central Railroad)
- นอกจากนี้ ทรัมป์ยังออกหนังสือให้คำแนะนำทางธุรกิจหลายเล่ม เป็นเจ้าของสิทธิเวทีประกวดนางงามจักรวาล (Miss Universe), นางงามสหรัฐ (Miss USA) และมิสทีนยูเอสเอ (Miss Teen USA) ตั้งแต่ปี 1996 ถึงปี 2015 อีกด้วย
- ทรัมป์ขยายบทบาทของตัวเองในอุตสาหกรรมบันเทิงด้วยรายการทีวี ดิ แอพเพรนทิซ (The Apprentice) ตั้งแต่ปี 2004 ถึง 2005 ซึ่งเขาเป็นพิธีกรและให้ผู้เข้าร่วมรายการแข่งขันกันแย่งชิงสัญญาจ้างงานในเครือธุรกิจของเขา โดยมีประโยคเด็ดแก่ผู้ตกรอบว่า “คุณถูกไล่ออกแล้ว” (You’re fired)
- ทรัมป์มักจะสร้างภาพจำต่อสาธารณชนว่าเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง แต่กิจการของทรัมป์ล้มละลายมากถึง 6 ครั้ง เนื่องจากมีการกู้ยืมมากเกินไป เพียงแต่เป็นการล้มละลายในนามนิติบุคคล
- นอกจากนี้ สำนักข่าวเดอะนิวยอร์กไทม์สยังเคยรายงานในปี 2020 ถึงการหลบเลี่ยงภาษี ปกปิดข้อมูลภาษีและการขาดทุนอย่างต่อเนื่องของธุรกิจของเขาอีกด้วย

ภาพประกอบ
ประวัติ การทำงานทางการเมือง “โดนัลด์ ทรัมป์” (Donald John Trump)
- ทรัมป์ลงแข่งขันแย่งสิทธิในการเป็นตัวแทนพรรคชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีมาก่อนแล้วหลายครั้ง โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2000 ภายใต้สังกัดพรรคปฏิรูป (Reform Party)
- ต่อมาก็ลงแข่งขันอีกครั้งในปี 2012 สังกัดพรรครีพับลิกัน
- กระทั่งปี 2016 ทรัมป์ได้รับคะแนนนิยมสูงลิ่ว เนื่องจากพลเมืองสหรัฐเบื่อนักการเมืองแบบเดิม และต้องการผู้นำแนวใหม่ที่อยู่นอกแวดวงการเมืองมากขึ้น ทำให้ โดนัลด์ ทรัมป์ สามารถคว้าตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 มาครองได้สำเร็จในปี 2016
- ในปี 2024 โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ แข่งขันกับ กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต โดยผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 โดนัลด์ ทรัมป์ สามารถคว้าตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐมาครองได้สำเร็จ