Nissan บริษัทรถยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 9,000 คน หลังยอดขายลดฮวบ
วันที่ 7 พ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศ รอยเตอร์ รายงานว่า นิสสัน (Nissan) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 9,000 คนและลดกำลังการผลิตทั่วโลกลงร้อยละ 20 หลังยอดขายในตลาดหลักอย่างจีนและสหรัฐลดลง
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ได้ประกาศปรับลดประมาณการรายได้จากการดำเนินงานตลอดทั้งปีลงเหลือ 150,000 ล้านเยน (975 ล้านดอลลาร์) จาก 500,000 ล้านเยนสำหรับงวดงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของประมาณการโดยเฉลี่ยของนักวิเคราะห์
ขณะเดียวกัน ปัญหาของ Nissan เป็นที่ประจักษ์ชัดท่ามกลางแบรนด์ญี่ปุ่นที่ประสบปัญหายอดขายรถใหม่ตกต่ำ และการแข่งขันที่รุนแรงจาก Tesla และแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจีนอย่าง BYD การปรับลดตัวเลขดังกล่าวถือเป็นอุปสรรคต่อ นายมาโกโตะ อูชิดะ ประธานบริหารบริษัทนิสสัน ซึ่งพยายามปรับปรุงผลกำไรแม้ว่ายอดขายจะค่อยๆ ลดลง
ทางด้านบริษัท ระบุอีกว่า นิสสันจะลดกำลังการผลิตลง 20% และเลิกจ้างพนักงาน 9,000 คนทั่วโลก พร้อมทั้งเทขายหุ้นคืน 10% ของ Mitsubishi Motors ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นลดลงจาก 34% ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม สำหรับกำไรไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนกันยายนอยู่ที่ 32,000 ล้านเยน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้โดยฉันทามติที่ 65,000 ล้านเยน และยังห่างไกลจาก 208,000 ล้านเยนในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนอีกด้วย
อีกทั้ง นายมาโกโตะ อูชิดะ ประธานบริหารบริษัทนิสสัน กล่าวในแถลงการณ์ว่า “นิสสันจะปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะปรับโครงสร้างการบริหารให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว”
ยอดขายทั่วโลกของ Nissan ลดลง 3.8% เหลือ 1.59 ล้านคันในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากยอดขายในประเทศจีนที่ลดลง 14.3% ซึ่งทางนิสสันกำลังมองหาทางที่จะฟื้นตัวเพื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งรายอื่นอีกด้วย ส่วนยอดขายในสหรัฐฯ ลดลงเกือบ 3% เหลือประมาณ 449,000 คัน
ทั้งนี้ ทางบริษัทกำลังร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นที่กำลังประสบปัญหาในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากผู้ผลิตชาวจีนที่มีความคล่องตัวในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโต