เมื่อวันที่ 10 เม.ย. เว็บไซต์ฮาเรตซ์รายงานว่า กองทัพรัสเซียเปิดภาพวิดีโอยืนยันอิสราเอลว่าใช้เครื่องบินเอฟ-15 โจมตีสนามบินของกองทัพอากาศซีเรีย ใกล้เมืองฮอมส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 เม.ย. มีผู้เสียชีวิต 14 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวอิหร่านอย่างน้อย 4 ราย

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดการเผชิญหน้าอย่างตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล เพิ่มเติมจากเดิมที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขีดเส้น 48 ช.ม. ว่าจะใช้มาตรการตอบโต้รัฐบาลซีเรีย รัสเซีย และอิหร่าน จากเหตุพลเรือนในเมืองดูมาของซีเรียถูกแก๊สพิษสังหารหมู่ ทั้งที่ยังไม่ทราบฝ่ายผู้โจมตีในขณะนี้

เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 10 เม.ย. รัฐบาลอิหร่านแถลงว่า การที่ทหารอิหร่านถูกอิสราเอลสังหารในเหตุโจมตีทางอากาศในซีเรีย เพิ่มเป็น 7 รายในสัปดาห์นี้ จะไม่ปล่อยให้เป็นเรื่องไร้คำตอบอย่างแน่นอน

ส่วนอิสราเอลไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้ แต่นายอาวิกดอร์ ลีเบอร์แมน รมว.กลาโหม แถลงว่า ไม่ว่าอิสราเอลจะต้องเสียอะไรไป ก็จะไม่ยอมให้อิหร่านเข้าไปตั้งมั่นฐานกำลังในซีเรีย เพราะการปล่อยให้อิหร่านแข็งแกร่งขึ้นในซีเรีย คือการปล่อยให้อิหร่านเข้ามาบดขยี้อิสราเอล

ฐานทัพอากาศ ที-14 /IDF Spokesperson’s Unit

สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์อ้างคำพูดของนายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย ที่ออกมาพูดว่าเครื่องบินรบจากกองทัพอากาศอิสราเอล ที่ขึ้นบินข้ามมาจากน่านฟ้าเลบานอนตรงมาสู่เมืองฮอมส์ และทิ้งระเบิดใส่ฐานทัพอากาศที-14 จังหวะนั้นระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียยิงสกัดมิสไซล์ที่ถูกทิ้งลงมาจากเครื่องบินรบอิสราเอลได้ 5 จาก 8 ลูก

ด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียระบุถึงเหตุการณ์นี้ว่า ทำให้สถานการณ์ลุกลามอันตราย

 

ชาวอิหร่าน 4 คนที่เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล

มีรายงานด้วยว่า รัฐบาลอิสราเอลได้แจ้งกับรัฐบาลสหรัฐว่าได้ส่งเครื่องบินเข้าไปโจมตีในซีเรีย และทางเจ้าหน้าที่สหรัฐเองก็ยืนยันว่ากองทัพอิสราเอลเป็นฝ่ายโจมตีทางอากาศใส่ฐานทัพซีเรีย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน