รอดหวุดหวิด! ชายแคนาดาหายตัวไป นาน 50 วัน หลังตั้งแคมป์ในป่าสุดหนาวเย็น เต็มไปด้วยหิมะ อุณหภูมิต่ำกว่า -20 องศาเซลเซียส
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน แซม เบนาสติกชายชาวแคนาดาวัย 20 ปี ออกเดินทางแคมป์ปิง 10 วันในถิ่นทุรกันดารอันห่างไกลและหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำกว่า -20 องศาเซลเซียส แต่หลังจากนั้นเขาหายตัวไปและไม่เคยกลับบ้านเลย จนทำให้ครอบครัวแจ้งความและประกาศตามหาตัวคนหาย ซึ่งอีก 50 วันต่อมาก็มีคนพบแซมอย่างปาฏิหาริย์
ตามรายงาน แซม เป็นนักกิจกรรมกลางแจ้งตัวยงจึงตัดสินใจออกผจญภัยครั้งใหม่ด้วยการออกเดินทางตั้งแคมป์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ไปยังเรดเฟิร์น-คีลี่พาร์ค อุทยานประจำจังหวัดในบริติชโคลัมเบีย ที่มีหุบเขาที่เต็มไปด้วยป่า ธารน้ำแข็ง น้ำตก และทิวทัศน์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและสภาพอากาศสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหน่วยที่เกี่ยวข้องเริ่มปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยหลังจากได้รับการแจ้งความ
แต่ยังไม่มีความคืบหน้า และปฏิบัติการกู้ภัยถูกยกเลิกในที่สุด ในโอกาสนี้อุณหภูมิก็ลดลงเหลือต่ำกว่าลบ 20 องศาเซลเซียส และมีหิมะตกหนักปกคลุมพื้นดิน อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ชายสองคนกำลังออกไปทำงานตามเส้นทางในเขตห่างไกลของบริติชโคลัมเบียทางตะวันออกเฉียงเหนือกลับพบชายอีกคนกำลังเดินลากขาออกมาจากป่า
ซึ่งพวกเขาจำเขาได้ว่าคือ แซม เบนาสติก นักเดินป่าที่หายตัวไปโดยแซมใช้ไม้เท้าสองอันพยุงร่างกายของเขาและมีถุงนอนพันรอบขาของเขาเพื่อป้องกันไข้ ดังนั้น ทั้งคู่จึงพาแซมไปที่โรงพยาบาลในพื้นที่ จากนั้นตำรวจก็มาสอบสวนเพื่อยืนยันตัวตนของเขา
อีกทั้งแซมบอกกับตำรวจว่า ในตอนแรกเขาอยู่ในรถเป็นเวลาสองสามวัน ก่อนที่จะเดินไปที่ลำธารใกล้ภูเขา และตั้งแคมป์ต่ออีก 10 ถึง 15 วัน จากนั้นเขาจึงเคลื่อนตัวลงไปตามหุบเขาและสร้างที่พักพิงในลำธารที่แห้งขอด ต่อมาแซมออกเดินทางอีกครั้งแล้วเขาก็ได้พบกับคนสองคนที่ช่วยเขาไว้
พลทหารมาดอนน่า ซอนเดอร์สัน ฝ่ายสื่อสารของตำรวจบริติชโคลัมเบีย กล่าว“การพบแซมมีชีวิตอยู่ถือเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แม้ว่าแซมจะหายตัวไปนานมาก แต่เกรงกันว่าผลลัพธ์จะไม่เป็นเช่นนั้น” ด้านอัล เบนาสติก ลุงของแซมให้สัมภาษณ์ว่า หลานชายของเขาว่าเป็นนักกิจกรรมกลางแจ้งตัวยงที่กำลังประสบกับอาการบาดแผลจากความหนาวเย็นและสูดดมควันเข้าไป ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อว่าหลานชายของเขารอดชีวิตมาได้ “ลองนึกภาพว่าตัวเองต้องอยู่ข้างนอกในที่หนาวเย็นเป็นเวลานานขนาดนั้นดูสิ”