ทั่วโลกแห่ส่อง – บีบีซี รายงานว่าชาวโลกจะได้ชมดาวหางที่หาดูได้ยากเป็นครั้งแรกในรอบ 160,000 ปี องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (นาซา) กล่าวว่า “ดาวหาง ซี/2024 จี 3” (Comet C/2024 G3) หรือ “ดาวหางแอตลัส” มีความสว่างพอที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

This view from our Night Sky Map for Sydney shows the position of C/2024 G3 (ATLAS) just before 21:00 (9 pm) on January 18. Above and to the right, Venus shines brightly next to Saturn. The size of objects on our Night Sky Map is exaggerated to show their positions more clearly. Full story: https://www.timeanddate.com/news/astronomy/comet-c-2024-g3-atlas
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าในวันที่ 14 ม.ค.ตามเวลาท้องถิ่นของอังกฤษจะเป็นวันที่ดาวหางอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดซึ่งทำให้ดาวหางสว่างและชาวยุโรปอาจมองเห็นได้ในคืนเดียวกัน แม้ยังระบุพิกัดที่จะมองเห็นอย่างแน่ชัดไม่ได้ แต่คนที่อยู่ในซีกโลกทางใต้หรืออยู่ใต้เส้นศูนย์สูตรน่าจะมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด
ระบบแจ้งเตือนดาวเคราะห์น้อยของนาซาซึ่งเป็นโครงการค้นหาวัตถุที่อาจพุ่งชนโลก สังเกตเห็นดาวหางแอตลัสจากภาพถ่ายของหอดูดาวในประเทศชิลี เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2567

ทั่วโลกแห่ส่อง – NASA astronaut Don Pettit shares a photo of Comet ATLAS that he took from a window of the International Space Station. Credit: Don Pettit / NASA
นายชยัม บาลาจี นักวิจัยสาขาฟิสิกส์ดาราศาสตร์และจักรวาลวิทยา คิงส์คอลเลจลอนดอนของอังกฤษ กล่าวว่าจากการคำนวณวงโคจรปัจจุบันทำให้ทราบว่าดาวหางจะเคลื่อนห่างจากดวงอาทิตย์ประมาณ 13 ล้านกิโลเมตรจึงถือว่าเป็นดาวหางที่โคจรรอบดวงอาทิตย์และเป็นปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบ 160,000 ปี
ชาวโลกอาจจะมองเห็นในอีกไม่กี่วันนี้ในช่วงที่โลกจะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดหรือเรียกว่า “เพอริฮีเลียน” ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพเอื้ออำนวยบนโลกและทิศทางการเคลื่อนที่ของดาวหางด้วย เช่นเดียวกับดาวหางทุกดวงที่คาดเดาการมองเห็นหรือความสว่างไม่ได้
นายบาลาจีกล่าวว่าคนที่อาศัยในซีกโลกใต้เส้นศูนย์สูตรอาจจะเห็นดาวหางได้ดีที่สุด พร้อมกับแนะนำว่าให้หันหน้ามองไปทางเส้นขอบฟ้าทางตะวันออกก่อนพระอาทิตย์ขึ้นหรือมองไปทางขอบฟ้าทางตะวันตกหลังพระอาทิตย์ตก

ทั่วโลกแห่ส่อง – NASA astronaut Don Pettit uses a camera on the International Space Station. A bright comet could be visible in skies across the globe over the coming days for the first time in 160,000 years. Credit: NASA
ขณะที่คนที่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร รวมทั้งสหราชอาณาจักร อาจจะมองเห็นได้ไม่ชัดเจนเท่ากับคนที่อยู่ในซีกโลกทางใต้และแนะนำให้ค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์พยากรณ์อากาศของบีบีซีเพื่อตรวจสอบว่าจุดที่จะมองดาวหางนั้นมีสภาพท้องฟ้าว่าแจ่มใสพอที่จะมองเห็นได้หรือไม่
นอกจากนี้ยังแนะนำให้ผู้ที่ต้องการชมดาวหางแอตลัสหาสถานที่ห่างไกลจากแสงรบกวนในเมืองและใช้กล้องสองตาหรือกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็กแล้วสังเกตบริเวณรอบๆ ดวงอาทิตย์ขึ้นหรือตกเพื่อหาตำแหน่งของดาวหางที่อาจจะปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

แนวการเคลื่อนที่ของดาวหางแอตลัสในขอบเขตภาพของกล้องคอโรนากราฟบนยานโซโฮ (ตามเวลาสากล) วงกลมเส้นประกลางภาพแทนดวงอาทิตย์ที่ถูกบังไว้ (จาก วรเชษฐ์ บุญปลอด)
เมื่อวันเสาร์ที่ 11 ม.ค. นายดอน เพ็ททิต นักบินอวกาศนาซา เผยแพร่ภาพถ่ายดาวหางที่ถ่ายได้จากสถานีอวกาศนานาชาติให้ผู้คนบนโลกให้ชมผ่านทางสื่อโซเชียลและโพสต์ข้อความว่าน่าทึ่งที่สุดที่ได้เห็นดาวหางแอตลัสกำลังจะมาเยือนโลก
ส่วนคนที่อยู่ในประเทศไทยก็มีโอกาสเห็นดาวหางเช่นกัน โดยนายวรเชษฐ์ บุญปลอด เขียนบทความในเว็บไซต์สมาคมดาราศาสตร์ไทยเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ว่าดาวหางแอตลัสจะผ่านจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดในวันที่ 13 ม.ค. ประมาณ 17 น. ตามเวลาประเทศไทย (และเป็นวันที่ใกล้โลกที่สุด) และเห็นได้ต่อเนื่องไปถึงวันที่ 15 ม.ค.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: