ชายโมร็อกโกมีอาการอัณฑะบวม ใหญ่ขึ้น 15 ซม. มีหนองไหล ช็อกเป็นโรคอันตรายถึงชีวิต สุดท้ายต้องผ่าอัณฑะออก ภาวะเจริญพันธุ์บกพร่องอย่างถาวร
สำนักข่าวต่างประเทศ ชายคนหนึ่งวัย 41 ปี ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคที่หายาก ซึ่งถือเป็น ‘โรคที่ร้ายแรงที่สุดในโลก’ หลังจากมีอาการอัณฑะซ้ายบวมขึ้น มีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 15 ซม. โดยเป็นมานาน 8 สัปดาห์ก่อนและเริ่มมีหนองสีขาวขุ่นไหลออกมาเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนที่จะไปโรงพยาบาล
ตามรายงาน แพทย์จากแผนกโรคทางเดินปัสสาวะของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย Ibn Sina ในกรุงราบัต ประเทศโมร็อกโกวินิจฉัยชายคนดังกล่าวว่าเป็นโรควัณโรคระบบทางเดินปัสสาวะและอวัยวะสืบพันธุ์ ซึ่งเป็นวัณโรคชนิดหายากที่ส่งผลต่ออวัยวะสืบพันธุ์และทางเดินปัสสาวะ
วัณโรคเป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่มักส่งผลต่อปอด แต่ก็สามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้เช่นกันโรคนี้มีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายผ่านละอองฝอยที่ออกมาจากการไอหรือจามของผู้ติดเชื้อวัณโรค แม้ว่าการศึกษาแนะนำว่าการพูดและการหายใจอาจเพียงพอที่จะทำให้มีเชื้อโรคฟุ้งกระจายในอากาศได้
วัณโรคถือเป็นโรคติดเชื้อที่ร้ายแรงที่สุดโรคหนึ่ง แซงหน้าโควิด-19 ขึ้นเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในปี 2566 เนื่องจากคร่าชีวิตผู้คนไปทั่วโลก 1.25 ล้านคน
วัณโรคทางเดินปัสสาวะและอวัยวะสืบพันธุ์ (GUTB) คิดเป็นประมาณร้อยละ 20 ของผู้ป่วยวัณโรคที่นอกปอด ซึ่งวัณโรคจะติดเชื้อในส่วนอื่น ๆ ของร่างกายนอกเหนือจากปอด การติดเชื้อแบคทีเรียในอัณฑะนั้นเกิดขึ้นได้น้อยมาก โดยเกิดขึ้นเพียง 2 ถึง 4 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วย GUTB เท่านั้น
คนไข้ชายคนดังกล่าวรายงานว่า ไม่มีอาการใด ๆ เช่น ไข้ ไอ เหงื่อออกตอนกลางคืน หรือน้ำหนักลด ซึ่งบ่งชี้ว่าการติดเชื้อมีต้นกำเนิดมาจากปอดของเขา ซึ่งผลเอกซเรย์ทรวงอกก็ออกมาปกติเช่นกัน พร้อมกันนี้ ผู้ป่วยเผยว่าไม่เคยสัมผัสกับวัณโรคมาก่อน และไม่เคยมีอาการทางปัสสาวะหรือบาดเจ็บที่อัณฑะแต่อย่างใด ทำให้แพทย์ระบุแหล่งที่มาของการติดเชื้อได้ยาก
แพทย์ยังทำการตรวจร่างกายผู้ป่วย และรายงานว่าอัณฑะซ้ายของผู้ป่วยนั้น “แข็ง ไม่สม่ำเสมอ และไม่เจ็บปวด ในขณะที่อัณฑะขวากลับปกติ” ซึ่งผลอัลตราซาวนด์แสดงให้เห็นว่า “ผนังอัณฑะหนาขึ้นเนื่องจากมีการแทรกซึมของเนื้อเยื่อโดยรอบ” ในขณะที่ผลการสแกน CT แสดงให้เห็นว่ากระเพาะปัสสาวะและไตของชายคนดังกล่าวไม่ได้ติดเชื้อวัณโรค
เนื่องจากแพทย์กังวลว่าอาการบวมที่อัณฑะของชายคนนี้อาจกลายเป็นมะเร็งหรือลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย จึงตัดสินใจดำเนินการผ่าตัดเพื่อเอาอัณฑะออก ในระหว่างการผ่าตัด โรงพยาบาลยังพบว่าลูกอัณฑะด้านซ้ายที่ติดเชื้อของชายคนนั้นมีเนื้อตายอย่างรุนแรงและมีเนื้อเยื่อผิดปกติ
หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยได้รับยาต้านวัณโรคเป็นเวลา 6 เดือน อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจติดตามผลพบว่าไม่มีอสุจิในน้ำอสุจิ ซึ่งหมายความว่าภาวะเจริญพันธุ์ของเขาบกพร่องอย่างถาวร แพทย์ชี้ให้เห็นว่าวัณโรคเป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิตทั่วโลก และกำลังกลับมาระบาดอีกครั้งในบางประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
โดยมีผู้เสียชีวิตจากวัณโรคทั่วโลกถึง 1.25 ล้านคนในปี 2566 ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่าวัณโรคสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะที่ถูกต้องและยั่งยืน แต่หากการรักษาถูกระงับ การติดเชื้ออาจกลับมาเป็นซ้ำและแพร่กระจายต่อไป อาจเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตได้
