ประชุมG20 สหรัฐฯงดร่วมวง-จีนหวานเจี๊ยบชิงบัลลังก์พญาอินทรี
ประชุมG20 – วันที่ 20 ก.พ. รอยเตอร์รายงานว่า แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพการจัดประชุมชาติเศรษฐกิจใหญ่ 20 ประเทศ (G20) ระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่กรุงโจฮันเนสเบิร์ก แต่สหรัฐอเมริกาไม่ส่งรมว.ต่างประเทศเข้าร่วม เพราะมีเรื่องกับแอฟริกาใต้
การประชุม G20 ที่กำลังเกิดขึ้นมีประเด็นสำคัญ อาทิ สงครามรัสเซียรุกรานยูเครน และสงครามการค้าโลก รวมถึงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น
โดยความขัดแย้งที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นนั้นถูกโหมกระพือให้เลวร้ายขึ้นไปอีกหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งเป็นผู้นำสหรัฐฯคนใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับนโยบายการต่างประเทศใหม่ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงไปทั่วโลก ทั้งยังมีการเดินหน้าบังคับใช้อย่างรวดเร็ว
หนึ่งในความขัดแย้งที่เห็นได้ชัดที่สุดเป็นการไม่เดินทางมาเข้าร่วมประชุมของนายมาร์โค รูบิโอ รมว.ต่างประเทศคนใหม่ของสหรัฐฯ เนื่องจากหนึ่งในประเด็นหารือเป็นเรื่องของการสนับสนุน “ความหลากหลาย ความเท่าเทียม และความการมีส่วนร่วม” หรือดีอีไอ
นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากความบาดหมางกันระหว่างทางการสหรัฐฯกับแอฟริกาใต้ กรณีที่ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งระงับความช่วยเหลือต่างๆ ต่อแอฟริกาใต้ กรณีไม่พอใจกฎหมายที่ให้อำนาจรัฐยึดที่ดินโดยไม่ต้องชดเชยได้เพื่อแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมระหว่างคนผิวขาวกับผิวดำ
รวมถึงเพื่อลงโทษทางการแอฟริกาใต้ที่เป็นผู้ยื่นฟ้องทางการอิสราเอล พันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือไอซีเจ ที่นครเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ที่ฉนวนกาซ่า
การกระชุมดังกล่าวยังเกิดขึ้นหลังประธานาธิบดีทรัมป์สร้างความตกตะลึงให้ประชาคมโลก กรณีพลิกจุดยืนเอกภาพร่วมกันกับยูเครนมาเป็นการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย รวมถึงยังกล่าวโจมตียูเครนว่าเป็นต้นตอของสงครามด้วย
รายงานระบุว่า บทบาทของสหรัฐที่หายไปจากเวทีประชุม G20 จะเป็นโอกาสดีของทางการจีน มหาอำนาจทางเศรษฐกิจลำดับที่สองของโลกในการแผ่อิทธิพล เช่น การผูกมิตรกับกลุ่มชาติซีกโลกใต้ รวมถึงการเข้าผูกมิตรกับสหภาพยุโรป หรืออียู เพื่อแทนที่สหรัฐฯ
สะท้อนจากที่กระทรวงการต่างประเทศจีนมีถ้อยแถลงออกมาช่วงก่อนการประชุม G20 ว่า ความสัมพันธ์ที่ดีและมีเสถียรภาพระหว่างอียูกับจีนนั้นมีความจำเป็นอย่างที่สุดมากกว่าช่วงเวลาใดๆ