เมื่อ 15 เม.ย. บีบีซีรายงานว่า รัฐบาลพม่าเปิดเผยว่า ครอบครัวผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมโรฮิงยา 5 คนเดินทางถึงค่ายพักพิงชั่วคราวสำหรับผู้คืนถิ่นในเมืองหล่าโปข่อง ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่แล้ว เมื่อ 14 เม.ย. พร้อมได้รับของใช้ยังชีพและบัตรยืนยันสัญชาติซึ่งไม่ใช่บัตรมอบสัญชาติความเป็นพลเรือนชาวพม่า ระหว่างรอดำเนินการตามระบบส่งตัวกลับประเทศ

ภาพจากสำนักข่าวเมียนมา – Myanmar News Agency เจ้าหน้าที่มอบเอกสารยืนยันสัญชาติ แต่ไม่ใช่บัตรประชาชน ให้สมาชิกครอบครัวชาวโรฮิงยา 5 คนที่เดินทางกลับมาฝั่งพม่า ที่ค่ายในเมืองหม่องดอว์ / AFP PHOTO /

หากรายงานดังกล่าวยืนยันว่าเป็นจริงจะถือว่าเป็นชาวโรฮิงยากลุ่มแรกที่กลับคืนถิ่นที่อยู่อาศัย นับตั้งแต่เผชิญวิกฤตกวาดล้างชาติพันธุ์จนชาวโรฮิงยาราว 700,000 คนต้องหนีตายข้ามชายแดนไปอยู่ค่ายพักพิงชั่วคราวในบังกลาเทศตั้งแต่เดือนส.ค.ปีก่อน

Myanmar immigration official (2nd L) handing over identification documents to an unidentified Rohingya woman at the Taungpyoletwei town repatriation camp in Maungdaw near the Bangladesh border.

ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน สำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) แถลงเตือนว่ารัฐยะไข่ยังไม่เหมาะที่ชาวโรฮิงยาจะคืนถิ่นเพื่อความปลอดภัย และการอยู่อาศัยที่ยั่งยืนมั่นคง

สิ่งปลูกสร้างใหม่ในพื้นที่ชุมชนเดิมของชาวโรฮิงยา Amnesty International

อีกทั้งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบังกลาเทศเพิ่งเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่พม่าเชื้อเชิญให้ชาวพุทธชนกลุ่มน้อยมาร์มา และมโรในเขตภูเขาบันดาร์บันกว่า 50 ครัวเรือนย้ายไปตั้งรกรากในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของพม่า ชุมชนเดิมที่ชาวโรฮิงยาเคยอยู่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน