เวียดนามเปิดโปง พบโรงงานน้ำหอมปลอม จำหน่ายออกไปมูลค่ากว่า 63 ล้านบาท ชี้ที่แท้กวนเอง ผลิตด้วยเครื่องตีไข่

สำนักข่าวเวียดนาม รายงาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดบิ่งเฟือก ประเทศเวียดนาม ประสบความสำเร็จในการทลายเครือข่ายผลิตและจำหน่ายน้ำหอมปลอมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในพื้นที่ โดยยึดน้ำหอมได้ประมาณ 20,000 ขวด พร้อมของกลางอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม สำนักงานตำรวจจังหวัดบิ่งเฟือกได้จัดพิธีมอบรางวัลพิเศษให้แก่บุคคลและหน่วยงานที่มีผลงานโดดเด่นในการทลายคดีการผลิตและจำหน่ายน้ำหอมปลอมแบรนด์ต่างประเทศชื่อดัง คดีนี้ได้รับการประเมินว่าเป็นคดีที่มีขนาดใหญ่ ซับซ้อน มีการจัดตั้งเป็นองค์กร และดำเนินการมานานหลายเดือน

ตามข้อมูลจากสำนักงานตำรวจช่วงต้นปี 2567 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบบัญชีผู้ใช้จำนวนมากบนเฟซบุ๊ก ติ๊กต็อก และแอพฯจำหน่ายสินค้าออนไลน์ที่โพสต์ข้อความ ไลฟ์สตรีมโฆษณา และขายน้ำหอมจำนวนมากที่มีร่องรอยการปลอมแปลงแบรนด์ต่างประเทศ

จากการสืบสวน ตำรวจได้ระบุตัวเจ้าของบัญชีเหล่านี้คือ พี่น้องสองคน ได้แก่ นางไล ถิ ตูเย็ต (อายุ 35 ปี) และนายไล จิ ติ๊ญ (อายุ 24 ปี) ทั้งคู่อาศัยอยู่ในเมืองด่งซ่าย จังหวัดบิ่งเฟือก ผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ไม่เพียงขายสินค้าออนไลน์เท่านั้น แต่ยังเข้าถึงลูกค้าอย่างจริงจังผ่านการโฆษณาและการถ่ายทอดสดทำให้มียอดขายสูง

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 สำนักงานตำรวจจังหวัดบิ่งเฟือกได้ร่วมกับหน่วยงานปฏิบัติการต่าง ๆ ทำการตรวจสอบพร้อมกันที่คลังสินค้าสองแห่ง ซึ่งเก็บวัตถุดิบและสารเคมี รวมทั้งสถานที่ผลิต บรรจุภัณฑ์ และจำหน่ายสินค้า ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของนางไล ถิ ตูเย็ต สามีของเธอนายลูว์ โฮ่าง ล็อง (อายุ 32 ปี) และน้องชายนายไล จิ ติ๊ญ

ผลการตรวจสอบพบว่ามีน้ำหอมสำเร็จรูปประมาณ 20,000 ขวด ขนาดตั้งแต่ 10 มล. ถึง 50 มล. ติดฉลากแบรนด์ “Ivy Dubai”, “Ivy Parfum” และอื่น ๆ พร้อมขวดเปล่าหลายหมื่นใบ ฉลาก ฝาขวด แกลลอนพลาสติก และสารเคมีสำหรับผสม มูลค่ารวมของของกลางที่ยึดได้ประมาณ 16,000 ล้านดอง (ประมาณ 2,029,030 บาท)

จากการสอบสวน ผู้ต้องหายอมรับว่าพวกเขาซื้อวัตถุดิบ ขวด ฉลาก จากหลายแหล่งบนโซเชียลมีเดีย โดยนายลูว์ โฮ่าง ล็อง เป็นผู้ลงมือผสมน้ำหอมปลอมด้วยการผสมสารเคมีต่างๆ ในหม้อโลหะขนาดใหญ่ จากนั้นใช้เครื่องตีไข่เพื่อคนส่วนผสมให้เข้ากัน

ส่วนผสมดังกล่าวจะถูกเก็บในแกลลอนหรือขวดขนาดใหญ่ จากนั้นจึงบรรจุลงในขวดเล็กขนาด 10 มล. ถึง 50 มล. ฉลากและบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดมีการพิมพ์ข้อความ “Made in U.A.E” เพื่อหลอกลวงผู้บริโภค ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดถูกจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก เช่น การไลฟ์สตรีมและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ

จากผลการสืบสวนเบื้องต้น ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 จนถึงเวลาที่ถูกจับกุม กลุ่มผู้ต้องหาได้จำหน่ายน้ำหอมปลอมเป็นจำนวนมาก มูลค่ารวมสูงถึง 50,000 ล้านดอง (ประมาณ 63 ล้านบาท) โดยได้รับผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมายมากกว่า 10,000 ล้านดอง (ประมาณ 12 ล้านบาท)

ดำเนินคดีผู้ต้องหา แต่ให้ประกันตัว
เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 หน่วยสืบสวนของสำนักงานตำรวจจังหวัดบิ่งเฟือกได้ออกคำสั่งดำเนินคดีและตั้งข้อหากับนางไล ถิ ตูเย็ต นายลูว์ โฮ่าง ล็อง และนายไล จิ ติ๊ญ ในข้อหา “ผลิตและจำหน่ายสินค้าปลอม” ตามประมวลกฎหมายอาญา

เนื่องจากนางไล ถิกำลังเลี้ยงดูบุตรอายุต่ำกว่า 36 เดือน จึงได้รับการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีกสองรายคือนายล็องและนายติ๊ญก็ได้รับการอนุญาตให้ประกันตัวหลังจากดำเนินการตามขั้นตอนการค้ำประกันเรียบร้อยแล้ว ด้วยความสำเร็จในการทลายคดีขนาดใหญ่

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 พันเอกบุย ซวน ถั่ง ผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจจังหวัดบิ่งเฟือก ได้มอบประกาศเกียรติคุณจากประธานคณะกรรมการประชาชนประจำจังหวัดให้แก่บุคคลสองราย และมอบใบประกาศของผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจจังหวัดแก่หนึ่งหน่วยงานและเจ้าหน้าที่เจ็ดรายจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมปฏิบัติการ

สำนักงานตำรวจจังหวัดบิ่งเฟือกระบุว่า นี่เป็นคดีการผลิตและจำหน่ายสินค้าปลอมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยถูกเปิดโปงในพื้นที่ คดีนี้ยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการอย่างเด็ดขาดตามกฎหมาย โดยเหตุการณ์นี้เป็นการเตือนภัยอีกครั้งเกี่ยวกับสถานการณ์สินค้าปลอม สินค้าเลียนแบบที่แฝงตัวอยู่ในตลาด

โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ยังมีช่องโหว่อีกมาก การใช้การไลฟ์สตรีมเพื่อเข้าถึงลูกค้าช่วยให้ผู้กระทำผิดสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ง่ายด้วยการแอบอ้างแบรนด์ใหญ่ๆ และขายในราคา “พิเศษ” ผู้บริโภคควรระมัดระวัง ควรซื้อผลิตภัณฑ์จากช่องทางจัดจำหน่ายที่เป็นทางการและตรวจสอบแหล่งที่มา ฉลากอย่างละเอียดก่อนใช้ โดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องสำอาง อาหาร ยา ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน