ปริศนาสะเทือนใจ! หญิงสาววัย 24 ปี เผชิญภาวะสุดลึกลับ หลังหยุดพูดภาษาที่เคยใช้มาตลอดทั้งชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ครอบครัวงง แม้แต่แพทย์ก็ยังหาคำตอบไม่ได้
19 พ.ค. 2568 สื่อต่างประเทศระบุว่า แพทย์ในประเทศจีนต้องเผชิญกับกรณีสุดแปลกของหญิงสาววัยรุ่นรายหนึ่ง ซึ่งจู่ ๆ ก็สูญเสียความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอพูดได้อย่างคล่องแคล่ว
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้านผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมประสาท นายว่าน เฟิง (Wan Feng) จากโรงพยาบาลในมณฑลกวางตุ้ง เมืองกวางโจว ประเทศจีน ได้เผยแพร่วิดีโอของหญิงสาววัย 24 ปี รายหนึ่ง ผู้ที่ล้มป่วยกะทันหันระหว่างการเรียนในชั้นเรียน
โดยเธอ “มีอาการผิดปกติ” อย่างน่าประหลาด เพราะเธอเคยพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว แต่หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น เธอกลับสามารถพูดได้เพียงภาษาจีนกลาง และภาษากวางตุ้งเท่านั้น
มีการเปิดเผยข้อมูลก่อนหน้าว่า หญิงสาวยังสามารถ “อ่าน” และ “เข้าใจ” ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี แต่ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลใด “เธอกลับไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้เลยหลังเกิดเรื่อง”
โดยผู้อำนวยการ นายว่าน เฟิง เล่าว่า “เธอยังสามารถพูดภาษาจีนกลาง และภาษากวางตุ้งได้ตามปกติ สิ่งเดียวที่เธอพูดไม่ได้ก็คือภาษาอังกฤษ ทั้งที่เธอเคยไปเรียนต่อที่ต่างประเทศมานานกว่าหนึ่งปี และภาษาอังกฤษของเธอก็อยู่ในระดับดีมาก”
ภาพประกอบ
ด้วยความตกใจ และหวาดกลัวจากอาการที่ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้แม้แต่คำเดียว หญิงสาวจึงรีบเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ และถูกส่งตัวไปยังแผนกศัลยกรรมประสาทของโรงพยาบาลประชาชนมณฑลกวางตุ้ง
ในเบื้องต้น แพทย์สงสัยว่าอาจมีเนื้องอกที่ส่งผลกระทบต่อศูนย์การใช้ภาษาของสมอง แต่ผลการตรวจ MRI กลับพบว่า “บริเวณสมองส่วนควบคุมการเคลื่อนไหวฝั่งซ้าย เกิดภาวะเลือดออกในสมอง (cerebral hemorrhage) ซึ่งเป็นสาเหตุที่ส่งผลต่อความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษของเธอโดยเฉพาะ”
ล่าสุด หญิงสาววัย 24 ปี รายนี้ เข้ารับการผ่าตัดสมองเพื่อบรรเทาความดันในสมอง และหลังการผ่าตัดไม่นาน เธอก็สามารถกลับมาพูดภาษาอังกฤษได้เหมือนเดิมเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทำให้สามารถเดินทางกลับไปศึกษาต่อต่างประเทศได้ตามแผนเดิม
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้กลายเป็นกระแสพูดถึงในสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีผู้ใช้งานจำนวนหนึ่งตั้งข้อสังเกตเชิงล้อเลียนว่า “หากการผ่าตัดสามารถพัฒนาความสามารถทางภาษาได้จริง ก็อาจกลายเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ” และชาวเน็ตบางรายถึงขั้นคอมเมนต์ว่า “พวกเขาก็อยากเข้ารับการรักษาเช่นกัน”
ภาพประกอบ
