เมื่อ 19 เม.ย. เอพีรายงานว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติคิวบา ประเทศคอมมิวนิสต์ที่เหลืออยู่น้อยนิดในโลก ลงมติเลือกนายมิเกล ดิแอซ-กาเนล เบอร์มูเดซ อายุ 57 ปี เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปที่จะมารับช่วงต่อจากนายราอูล คาสโตร โดยจะเป็นผู้นำคิวบาคนแรกที่ไม่ใช่สมาชิกของตระกูลคาสโตรในรอบ 6 ทศวรรษที่ผ่านมา

ส่วนนายราอูล คาสโตร อายุ 86 ปี ที่เคยสานต่อตำแหน่งผู้นำประเทศต่อจากพล.อ.ฟิเดล คาสโตร พี่ชายตั้งแต่ปี 2549 จะเป็นหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ต่อไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ในฐานะผู้ชี้ทางสังคมและประเทศ

นายดิแอซ-มิเกล / AFP

ด้านบีบีซีรายงานประวัติดิแอซ-กาเนล ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยออกสื่อมากนัก แม้รับตำแหน่งประธานสภาแห่งรัฐของคิวบาครั้งแรกเมื่อปี 2556 และทำงานเป็นมือขวาของนายราอูล คาสโตรมาตั้งแต่นั้น

เกิดเดือนเมษายน 2503 ตรงกับช่วงหนึ่งปีหลังจากพล.อ.ฟิเดล คาสโตรสาบานตนเป็นนายกรัฐมนตรีคิวบาครั้งแรก นับจากประเทศผ่านยุคปฏิวัติ ดิแอซ-กาเนลเรียนด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและเริ่มชีวิตการเมืองเมื่อตนเองอยู่ในช่วงวัย 20 ในฐานะสมาชิกสหพันธ์ยุวชนคอมมิวนิสต์ในซานตาคลารา

เมื่อเรียนจบจึงเป็นอาจารย์สอนวิชาวิศวกรรมที่มหาวิทยาลัยในท้องถิ่น และเริ่มมีตำแหน่งในสหพันธ์ยุวชนคอมมิวนิสต์ ขึ้นเป็นเลขาธิการอันดับสอง ขณะอายุ 33 ปี ก่อนก้าวมามีบทบาทในพรรคคอมมิวนิสต์

นายราอูลพบโอบามา เมื่อปี 2559 ที่กรุงฮาวานา คิวบา (AP Photo/Ramon Espinosa, File)

ราอูล คาสโตร กล่าวชมดิแอซ-กาเนล ว่าเป็นผู้ยึดหลักอุดมการณ์อย่างแนวแน่ชัดเจน ขณะที่ผู้นำใหม่ของคิวยาจะต้องเผชิญปัญหาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบมาจากการล่มสลายทางเศรษฐกิจของเวเนซุเอลา ชาติพันธมิตร จะทำอย่างไรกับเรื่องปากท้องของประชาชน โดยเฉพาะประชากรคนรุ่นใหม่ที่มีความอดทนน้อยกว่าคนในยุคปฏิวัติสังคมนิยม

อีกทั้งยังต้องรับมือกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับสหรัฐอเมริกา ในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ไม่เป็นมิตรเหมือนนายบารัก โอบามา ผู้ฟื้นสัมพันธ์กับคิวบาถึงขั้นพบปะจับมือกับนายราอูล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน